อ.คุระบุรี จ.พังงา |
รับทันที ! โปรโมชั่น “ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์” หรือ “ตั๋วเรือหมู่เกาะสุรินทร์” ราคาพิเศษ !
เฉพาะผู้ที่ติดต่อสำรองทัวร์/ตั๋วเรือ และชำระค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนล่วงหน้าตามเงื่อนไข
ผ่านหมายเลขโทรศัพท์หรือ Line ID ในกรอบทางด้านล่าง ตั้งแต่ 15 ต.ค. 2564 – 15 พ.ค. 2565 เท่านั้น !
|
หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลสำคัญของ อ.คุระบุรี จ.พังงา ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาช้านานในฐานะของหมู่เกาะซึ่งมีน้ำทะเลสีสันสดใสสวยงามราวกับกระจก กอปรไปด้วยแนวปะการังน้ำตื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นหมู่เกาะอันเป็นสถานที่ตั้งถิ่นฐานของ “ชาวมอแกน” อดีตชนเผ่าเร่ร่อนซึ่งได้รับสมญานามว่าเหล่ายิปซีแห่งท้องทะเล (Sea Gypsies) ผู้สืบสานภูมิปัญญาของการดำรงชีวิตท่ามกลางห้วงมหาสมุทรกว้างจากบรรพบุรุษ
|
.........................จุดเริ่มต้นในการเดินทางสู่ หมู่เกาะสุรินทร์.........................
|
|
...................................ท่าเรือคุระบุรี จ.พังงา...................................
|
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ : หมู่เกาะงามที่เปิดให้เข้าเยี่ยมชมได้เพียงแค่ 6 – 7 เดือน/ปี
หมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งอยู่ในเขตท้องที่ ต.พระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา ได้รับการตั้งชื่อขึ้นตามบรรดาศักดิ์ของ “มหาเสวกโท พระยาสุรินทราชา สยามราชภักดี พิริยะพาหะ” (นามเดิม : นกยูง วิเศษกุล) เทศาภิบาลมณฑลภูเก็ตผู้สำรวจพบหมู่เกาะแห่งนี้ ต่อมาในวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2524 หมู่เกาะสุรินทร์จึงได้รับการประกาศให้ขึ้นทะเบียนเป็นเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 30 ของประเทศไทย
|
...................................ศิลปะที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง...................................
|
|
..........เรือหัวโทงซึ่งคอยถ่ายเทนักท่องเที่ยวจาก Speedboat เข้าสู่ อ่าวช่องขาด..........
|
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่รวมกันทั้งหมด 5 เกาะ ได้แก่ เกาะสุรินทร์เหนือ, เกาะสุรินทร์ใต้, เกาะรี (“เกาะสตอร์ค” หรือ “เกาะไฟแว๊บ”), เกาะไข่ (เกาะตอรินลา) และเกาะกลาง (“เกาะปาจุมบา” หรือ “เกาะมังกร”) นอกจากนี้ก็ยังมีกองหินพ้นน้ำอันเป็นจุดดำน้ำสำคัญอีก 2 แห่ง คือ หินราบ (ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของเกาะสุรินทร์เหนือ) และหินแพ (บางครั้งเรียก “หินกอง” ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์ใต้) รวมถึงยังมีกองหินปริ่มน้ำอันเป็นจุดดำน้ำลึกที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก ได้แก่ กองหินริเชลิว ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของเกาะสุรินทร์เหนือด้วย
|
...................................อ่าวไม้งาม ยามสาย...................................
|
|
.............................................ลิงโลด.............................................
|
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์มีพื้นที่รวมทั้งหมดประมาณ 88,282 ไร่ หรือราว 141.25 ตารางกิโลเมตร.....โดยปกติ.....ทางอุทยานฯ จะปิดหมู่เกาะตลอดช่วงฤดูมรสุมตั้งแต่ราววันที่ 16 พฤษภาคม – 14 ตุลาคม ของทุกๆ ปี และจะเริ่มเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการเข้าเยี่ยมชมหมู่บ้านมอแกนหรือดำน้ำตามเกาะต่างๆ อีกครั้งเมื่อพ้นช่วงฤดูมรสุมไปแล้วเท่านั้น (ส่วนใหญ่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์จะเริ่มเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม – 15 พฤษภาคม ของทุกๆ ปี แต่บางปีหากมรสุมหมดเร็วอุทยานฯ ก็อาจเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมครับ) นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบช่วงเวลาเปิด/ปิดอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ที่แน่นอน ตรวจสอบราคาตั๋วเรือและราคาทัวร์ได้จากตารางราคาสีขาวทางด้านล่างของบทความ รวมถึงสามารถติดต่อจอง “ตั๋วเรือ” และ “ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์” ได้จาก “หมายเลขโทรศัพท์” หรือ “LINE ID” ซึ่งปรากฏอยู่ภายในกรอบสีขาวทางด้านล่างสุดของบทความชิ้นนี้
|
...................................เอกลักษณ์ทะเลใต้...................................
|
|
...................................เครื่องประดับจากมหาสมุทร...................................
|
หมู่เกาะสุรินทร์ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือคุระบุรีราว 60 กิโลเมตร (และอยู่ห่างจากน่านน้ำฝั่งประเทศพม่าเพียงแค่ประมาณ 15 กิโลเมตร) ในอดีตนักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะเดินทางไปยังหมู่เกาะแห่งนี้จำเป็นจะต้องโดยสารไปกับเรือประมงไม้ดัดแปลงซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง แต่ในปัจจุบันเรือทั้งหมดที่วิ่งให้บริการระหว่างหมู่เกาะสุรินทร์ – ชายฝั่ง จ.พังงา จะเป็น Speedboat ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากชายฝั่งไปถึงหมู่เกาะสุรินทร์ได้โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 1 – 1 ½ ชั่วโมงเท่านั้น (สำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งได้ติดต่อจอง “ตั๋วเรือ” หรือ “ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์” พร้อมกับชำระค่าใช้จ่ายเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ทางผู้ประกอบการก็จะมีการจัดรถรับส่งระหว่าง บขส.คุระบุรี/โรงแรม/รีสอร์ทบางแห่งตามเขตพื้นที่ที่กำหนดของ จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต – ท่าเรือให้ด้วยครับ)
|
...............บ้านพักของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์บริเวณอ่าวช่องขาด...............
|
|
....................................เรือนประทับแรมชาปีไหน...................................
|
การจะเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ให้ครบถ้วนทั่วทุกชายหาดและอ่าวสำคัญๆ นักท่องเที่ยวควรจะมีเวลาพักค้างแรมอยู่บน “เกาะสุรินทร์เหนือ” อย่างน้อยที่สุด 3 วัน 2 คืน (แต่ถ้ามีเวลาวันหยุดน้อยจริงๆ อาจเลือกซื้อ “โปรแกรมทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์แบบเช้าไปเย็นกลับ” ก็ไม่เสียหาย เพียงแต่จะไม่มีโอกาสได้เที่ยวจนทั่วทุกๆ อ่าวครับ) สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางมายังหมู่เกาะสุรินทร์นั้น ปัจจุบันมีทางเลือกอยู่เพียงแค่ 2 รูปแบบ ได้แก่ การซื้อทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ (ผู้ประกอบการทัวร์จะมีการทำประกันภัย, จัดอุปกรณ์ดำน้ำตื้น, จัดหาอาหาร และจัดเต็นท์ที่พักบนเกาะสุรินทร์เหนือให้ตามลักษณะโปรแกรมที่เราเลือกครับ) หรือ ซื้อเฉพาะตั๋วเรือไปกลับหมู่เกาะสุรินทร์ (ต้องจองที่พักของอุทยานฯ มาเองล่วงหน้า.....สามารถเลือกจองเป็นบ้านพักหรือเต็นท์ก็ได้ครับ)
|
ระหว่าง เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่าวไม้งาม - อ่าวกระทิง - อ่าวช่องขาด
บางช่วงจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ท้องทะเลจากมุมสูงได้
|
|
บริเวณโขดหินริมป่าชายเลนของอ่าวไม้งาม
คือ ตำแหน่งที่สามารถสังเกตเห็นลูกฉลามครีบดำได้ง่ายๆ
|
เป็นเรื่องที่แน่นอนว่าหากนักท่องเที่ยวเลือกซื้อทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ ก็ย่อมจะได้รับความสะดวกสบายมากกว่านักท่องเที่ยวซึ่งเลือกซื้อเฉพาะตั๋วเรือไปกลับอย่างไม่ต้องสงสัย (ยกเว้นเรื่องที่พัก เพราะทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ของบริษัทเอกชนทุกๆ แห่งจะจัดเต็นท์เป็นที่พักให้แก่นักท่องเที่ยว.....ไม่ได้จัดเป็นบ้านพักครับ) แต่การเลือกซื้อเฉพาะตั๋วเรือไปกลับก็ยังมีข้อดีกล่าวคือ นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างแรมอยู่บนเกาะสุรินทร์เหนือได้นานตราบเท่าที่ต้องการจนกว่าจะถึงวันปิดหมู่เกาะ (แล้วแต่ว่าจองที่พักอุทยานมากี่คืนครับ) ส่วนกิจกรรมดำน้ำตื้นก็ยังมาเลือกซื้อ “บริการทัวร์ดำน้ำตื้นรายวันของทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์” (เป็นบริการของอุทยานฯ โดยตรงซึ่งส่วนใหญ่จะมีชาวมอแกนเป็นนายท้ายเรือ.....ไม่ใช่บริการของผู้ประกอบการเอกชนครับ) เพิ่มเติมได้จากจุดบริการนักท่องเที่ยวบริเวณ “อ่าวไม้งาม” หรือ “อ่าวช่องขาด” โดยจะมีโปรแกรมดำน้ำตื้นให้เลือกทั้งหมด 4 รูปแบบ รวมเป็นจุดดำน้ำตื้นมากถึง 10 แห่ง
|
.........................ปูทะเลตัวเป็นๆ ใต้ผืนน้ำใส.........................
|
|
....................................ปูเสฉวนตัวน้อยบนผืนทราย...................................
|
.....อย่างไรก็ดี.....บริการทัวร์ดำน้ำตื้นรายวันของทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์นั้นจะไม่มีโปรแกรมพานักท่องเที่ยวไปเยือนหมู่บ้านมอแกนระบุไว้บนป้ายให้ข้อมูลทัวร์ประจำวัน หากนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางไปยังหมู่บ้านแห่งนี้แนะนำให้มาลงชื่อในสมุดลงทะเบียนทัวร์ของทางอุทยานฯ ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ณ จุดบริการนักท่องเที่ยวบริเวณ “อ่าวไม้งาม” หรือ “อ่าวช่องขาด” (ให้เขียนระบุไว้ในสมุดลงทะเบียนทัวร์ว่า “หมู่บ้านมอแกน” ครับ) โดยจะต้องรอคนอื่นๆ มาร่วมลงชื่อหารเฉลี่ยค่าเรือไปยังหมู่บ้านมอแกน ซึ่งปกติก็จะมีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ มาร่วมลงชื่อหารเฉลี่ยค่าเรือไปหมู่บ้านมอแกนอยู่เสมอ แต่ถ้าไม่มีนักท่องเที่ยวคนใดมาร่วมลงชื่อหารเฉลี่ยค่าเรือเลยและคุณต้องการจะเดินทางไปยังหมู่บ้านแห่งนี้จริงๆ ก็อาจจำเป็นจะต้องเหมาเรือไปเอง สำหรับอัตราค่าบริการเหมาเรือของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์จะอยู่ที่ 1,500 บาท/ครึ่งวัน และ 3,000 บาท/วัน (จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เกิน 15 คน/เรือ 1 ลำ อัตราค่าบริการดังกล่าวข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตครับ)
|
...............................มุมหนึ่ง ณ หมู่เกาะสุรินทร์..............................
|
|
...................................อ่าวไม้งามเมื่อยามน้ำลง...................................
|
ในส่วนของอาหารสำหรับนักท่องเที่ยวที่ซื้อเฉพาะตั๋วเรือไปกลับหมู่เกาะสุรินทร์ก็สามารถมาซื้อหารับประทานได้จากร้านค้าสวัสดิการของทางอุทยานฯ (มีร้านค้าสวัสดิการให้บริการทั้งบริเวณ “อ่าวช่องขาด” และ “อ่าวไม้งาม” ครับ) ซึ่งอาหารที่เลือกซื้อได้ก็จะมีทั้งแบบ Set Menu แยกเป็นมื้อๆ โดยจะมีราคาอยู่ที่ อาหารเช้า 120 บาท/ท่าน (ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวต้มหรือโจ๊ก) อาหารกลางวัน 250 บาท/ท่าน และอาหารเย็น 280 บาท/ท่าน (อาหารกลางวันกับอาหารเย็นโดยปกติจะเป็นข้าวสวย + กับข้าวตามใจพ่อครัว + ผลไม้ตามฤดูกาล รวม 3 – 4 อย่างครับ) หรือถ้าอยากจะเลือกสั่งอาหารแบบตามใจฉันก็สามารถทำได้ สนนราคาอาหารจานเดียวในร้านค้าสวัสดิการบนหมู่เกาะสุรินทร์จะอยู่ที่ 80 – 120 บาท/จาน (ราคาอาหารที่กล่าวถึงทั้งหมดข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตครับ) สำหรับนักท่องเที่ยวที่เลือกซื้อทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์มาก็ไม่ต้องกังวลใดๆ เพราะผู้ประกอบการทัวร์จะมีการจัดอาหาร Buffet หรือ Set Menu ให้เป็นมื้อๆ ตามลักษณะโปรแกรมทัวร์ที่นักท่องเที่ยวเลือกซื้อมาอยู่แล้ว
|
........................................จุดจอดเรือ 200 เมตร........................................
|
|
...............กลุ่มเรือทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ที่พานักท่องเที่ยวมาดำน้ำตื้น...............
|
ข้อควรรู้เกี่ยวกับร้านค้าสวัสดิการของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ก็คือ ร้านค้าสวัสดิการฯ จะไม่ได้เปิดครัวให้นักท่องเที่ยวสั่งอาหารได้ตลอดทั้งวัน หากแต่จะแบ่งช่วงเวลาเปิดให้บริการรับสั่งอาหารออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่
อาหารเช้า : เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 7.30 น. ถึง 9.00 น.
อาหารกลางวัน : เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 14.00 น.
อาหารเย็น : เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 18.30 น. ถึง 20.00 น.
และตลอดช่วงเวลาที่ครัวเปิดให้บริการ นักท่องเที่ยวทุกๆ กลุ่มก็ยังสามารถดื่มน้ำเปล่าภายในโรงอาหารสวัสดิการฯ ได้ฟรีๆ อีกด้วย (จะมีคูลเลอร์น้ำเปล่าและถาดวางแก้วตั้งอยู่ภายในโรงอาหารสวัสดิการฯ นักท่องเที่ยวสามารถหยิบมากดน้ำดื่มบริการตัวเองได้ครับ)
|
..........หอยมือเสือ ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังโขด และฝูงปลาสีฟ้าตัวน้อย..........
|
|
..........ฝูงปลาหูช้างที่บังเอิญพบเจอขณะดำน้ำตื้นบริเวณอ่าวช่องขาด - อ่าวกระทิง..........
|
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อเฉพาะตั๋วเรือไปกลับหมู่เกาะสุรินทร์และต้องการจะจองที่พักของอุทยานฯ ด้วยตนเอง สามารถลงทะเบียนจองล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ nps.dnp.go.th โดยรูปแบบที่พักซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถเลือกจองได้นั้นมีทั้งแบบบ้านพักเป็นหลังๆ (มีห้องน้ำในตัว เปิดให้บริการเฉพาะบริเวณ “อ่าวช่องขาด”), บ้านแฝดบนไหล่เขา (มีห้องน้ำในตัว เปิดให้บริการเฉพาะบริเวณ “อ่าวช่องขาด”) และเต็นท์ (ใช้ห้องน้ำรวม เปิดให้บริการทั้งบริเวณ “อ่าวช่องขาด” และ “อ่าวไม้งาม” ครับ) โดยที่พักแบบบ้านหลังและบ้านแฝดของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์นั้นมักจะเต็มล่วงหน้าอยู่เสมอ ส่วนเต็นท์ที่พักถึงแม้ว่าอาจจะมีว่างอยู่บ้างในช่วงวันธรรมดา แต่ถ้าเป็นวันหยุดต่อเนื่องตามเทศกาลต่างๆ ก็จะเต็มตลอด (ในช่วงวันหยุดต่อเนื่องตามเทศกาลต่างๆ นักท่องเที่ยวจึงควรติดต่อจองทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์, จองตั๋วเรือ และจองที่พักบนเกาะเอาไว้ล่วงหน้าเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน มิฉะนั้นทัวร์, ตั๋วเรือ และที่พักก็อาจเต็มได้ครับ)
|
...................................Lady in the water...................................
|
|
...................................เดินลัดเลาะแนวปะการังน้ำตื้น...................................
|
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์พาไปที่ไหนบ้าง ?
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ในอดีตนั้นเคยได้ชื่อว่าเป็น “ที่สุดแห่งป่าปะการังและวิถีชีวิตชาวเล” แต่ภายหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 และปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวซึ่งเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเดือนกันยายน – ธันวาคม พ.ศ. 2553 ก็ได้ทำให้แนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์ของหมู่เกาะสุรินทร์เกิดความเสียหายไปมากกว่าร้อยละ 85 .....อย่างไรก็ดี.....จากการลงดำน้ำตื้นเพื่อสำรวจแนวปะการังตามอ่าวต่างๆ รอบหมู่เกาะสุรินทร์เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 โดยทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ก็ทำให้พวกเราพบว่า แนวปะการังที่เคยเสื่อมโทรมนั้นได้เริ่มกลับมาเติบโตและมีสีสันสวยสดงดงามมากกว่าช่วงที่เคยเกิดความเสียหายมากที่สุดเยอะแล้ว (สรุปง่ายๆ คือ ขอเชิญชวนทุกๆ คนให้ไปดำน้ำที่หมู่เกาะสุรินทร์กันได้เลยนับตั้งแต่บัดนี้เพราะแนวปะการังเริ่มกลับมาสวยแล้วครับ)
|
.............................................แฝดสี่.............................................
|
|
.........................ทิวทัศน์ท้องทะเลด้านหน้าอ่าวช่องขาด.........................
|
ถ้าต้องการจะดำน้ำตามอ่าวต่างๆ ก็เป็นเรื่องซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จำเป็นจะต้องใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์” .....ทั้งนี้.....ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะเลือกใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์โดยผู้ประกอบการเอกชน” (สามารถเลือกจุดเริ่มต้นทัวร์ได้ตั้งแต่เขตพื้นที่หาดเขาหลัก จ.พังงา, ท่ารถ บขส. คุระบุรี หรือจากหลากหลายพื้นที่ในเขต จ.ภูเก็ต) หรือ “ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์โดยอุทยานฯ” (นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องซื้อตั๋วเรือไปกลับหมู่เกาะสุรินทร์ผ่านผู้ประกอบการเอกชนมาก่อน แล้วจึงค่อยมาติดต่อซื้อทัวร์ประจำวัน ณ จุดบริการนักท่องเที่ยวของอุทยานฯ บริเวณ “อ่าวช่องขาด” หรือ “อ่าวไม้งาม” บนเกาะสุรินทร์เหนืออีกครั้งครับ) ผลสุดท้ายก็จะมีอ่าวและจุดดำน้ำตื้นต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงได้ไม่แตกต่างกัน เนื่องจากในแต่ละปีเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์จะมีการลงดำน้ำสำรวจแนวปะการังตามอ่าวต่างๆ โดยรอบเป็นระยะๆ เพื่อวางแผนกำหนดว่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวลงดำน้ำที่จุดใดได้บ้าง ซึ่งผู้ประกอบการทัวร์เอกชนและเจ้าหน้าที่นำเที่ยวของทางอุทยานฯ ก็จะต้องพานักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมเฉพาะจุดดำน้ำที่เปิดเท่านั้น (ตามปกติอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์จะเปิดให้เข้าเยี่ยมชมจุดดำน้ำได้โดยเฉลี่ย 10 จุด/ปี และนักท่องเที่ยวก็จะไม่สามารถดำน้ำตื้นโดยรอบอุทยานฯ ได้จนครบทุกๆ จุดภายในวันเดียวอย่างแน่นอน.....ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วันเต็มๆ จึงจะสามารถดำน้ำตื้นชมแนวปะการังได้จนครบทุกจุดครับ)
|
...................................สุขใจใต้ร่มไม้...................................
|
|
.............................................งดงาม.............................................
|
ในบทความช่วงถัดไปเราจะมาทำความรู้จักกับชายหาดและอ่าวสำคัญๆ โดยรอบหมู่เกาะสุรินทร์, หมู่บ้านชาวมอแกน รวมถึงจุดดำน้ำต่างๆ ซึ่งผู้ให้บริการทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์จะพาคุณไปชื่นชม
1. อ่าวช่องขาด : เป็นอ่าวซึ่งวางตัวอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะสุรินทร์เหนือ อยู่ใกล้กับร่องน้ำที่คั่นกลางระหว่างเกาะสุรินทร์เหนือและเกาะสุรินทร์ใต้ เป็นสถานที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ที่ 3 (อ่าวช่องขาด) ซึ่งมีทั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านพัก ลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ ร้านค้าและร้านอาหารสวัสดิการอยู่พร้อมสรรพ
|
.............................................เศษซากเรือเก่า.............................................
|
|
...............ผลพวงจากเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี พ.ศ. 2547 ?...............
|
บางช่วงเวลาขณะที่น้ำทะเลลดลงต่ำมากๆ นักท่องเที่ยวอาจจะสามารถเดินข้ามร่องน้ำบริเวณอ่าวช่องขาดจากเกาะสุรินทร์เหนือข้ามไปยังเกาะสุรินทร์ใต้ได้.....อย่างไรก็ดี.....ในบริเวณร่องน้ำดังกล่าวมักจะมีกระแสน้ำที่ไหลค่อนข้างแรง อีกทั้งยังมีแนวปะการังเขากวางซึ่งกำลังค่อยๆ ก่อตัวขึ้นใหม่อยู่บนพื้นทรายใต้ทะเล หากไม่มีความจำเป็นใดๆ ก็แนะนำว่าอย่าพยายามเดินข้ามไปจะดีที่สุด (เพราะอาจโดนกระแสน้ำพัดปลิวออกทะเลไป หรืออาจเดินไปเหยียบย่ำแนวปะการังซึ่งกำลังก่อตัวใหม่ได้ครับ) แต่ถ้าคุณรู้สึกอัดอั้นขนาดหนักและต้องการจะข้ามร่องน้ำระหว่างเกาะนี้ไปให้ได้จริงๆ แนะนำว่าให้สวมเสื้อชูชีพให้แน่นหนา อย่าเดินเหยียบย่ำลงไปบนแนวปะการัง และสวดภาวนาขอให้ตนเองแคล้วคลาดปลอดภัย แล้วจึงค่อยๆ เดินหรือว่ายน้ำข้ามไป
|
.............................................เกยตื้น.............................................
|
|
....................ทะเลใสหน้าอ่าวช่องขาด เกาะสุรินทร์เหนือ....................
|
ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.30 – 14.30 น.ของทุกๆ วัน บริเวณอ่าวช่องขาดจะคลาคล่ำไปด้วยกลุ่มนักท่องเที่ยวจาก จ.ภูเก็ต และ จ.พังงา ซึ่งเดินทางมากับ “ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์แบบเช้าไปเย็นกลับ” (Surin Islands one day trip) เนื่องจากบริเวณอ่าวช่องขาดแห่งนี้เป็นหนึ่งในจุดแวะพักเล่นน้ำและรับประทานอาหารกลางวันของผู้ประกอบการทัวร์เอกชน บางครั้งในระหว่างที่นักท่องเที่ยวกำลังเดินสำรวจพื้นที่ต่างๆ โดยรอบอ่าวช่องขาดก็อาจพบกับ “ลิงกัง” (Macaca nemestrina) ที่มักจะปีนป่ายลงมาจากต้นไม้บนภูเขาเพื่อคุ้ยเขี่ยหาเศษอาหารจากถังขยะของอุทยานอยู่เสมอ
|
........................................ช่องเปิดสู่โลกกว้าง........................................
|
|
..................................................กรอบรูป..................................................
|
จุดดำน้ำตื้นสำคัญบริเวณอ่าวช่องขาดนั้นมีอยู่สองจุด จุดแรกจะอยู่ใกล้กับโขดหินริมอ่าวด้านทิศเหนือ (โขดหินด้านหน้าชายหาดฝั่งตรงข้ามกับจุดเทียบเรือทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์.....ใกล้ๆ กับลานกางเต็นท์) หากนักท่องเที่ยวค่อยๆ ว่ายน้ำอ้อมโขดหินดังกล่าวมุ่งหน้าไปทาง “อ่าวกระทิง” ก็จะพบกับแนวปะการังโขดซึ่งก่อตัวกินอาณาบริเวณกว้างหลายร้อยตารางเมตร อีกทั้งยังสามารถพบเห็นฝูงปลากะพงลายพาดซึ่งอาศัยอยู่ในแนวปะการังแถบนี้ได้ง่ายๆ และหากคุณโชคดีมากจริงๆ ก็อาจได้พบเห็นกลุ่มลูกปลาหูช้างที่ว่ายแวะวนเวียนเข้ามาบริเวณใกล้ๆ กับแนวโขดหินด้วย
|
..............................ถึงแม้จะผุพัง แต่ก็ยังคงทรงไว้ซึ่งมนต์เสน่ห์..............................
|
|
..................................................ชีวิตลั้นลา..................................................
|
จุดดำน้ำตื้นสำคัญจุดที่สองจะอยู่บริเวณร่องน้ำซึ่งคั่นกลางระหว่างเกาะสุรินทร์เหนือและเกาะสุรินทร์ใต้ ณ จุดดำน้ำตื้นแห่งนี้นักท่องเที่ยวจะสามารถพบเห็นกอปะการังเขากวางจิ๋วซึ่งกำลังก่อตัวใหม่ และยังมีกอดอกไม้ทะเลที่มีปลาการ์ตูนอาศัยอยู่หลายหย่อม (จากจุดเทียบเรือทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ ให้นักท่องเที่ยวหันหน้ามองออกไปทางท้องทะเลแล้วเดินเลียบชายหาดมาทางด้านขวาราว 40 – 50 เมตร แล้วจึงค่อยๆ ว่ายน้ำจากชายหาดออกไปก็จะพบกับแนวปะการังและกอดอกไม้ทะเลเป็นหย่อมๆ อยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งครับ) .....อย่างไรก็ดี.....มีข้อพึงระวังสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะดำน้ำตื้นในบริเวณนี้ คือ หากเป็นช่วงเวลาน้ำลง.....กอปะการังเขากวางจิ๋วและดอกไม้ทะเลในบริเวณร่องน้ำจะอยู่ตื้นมาก ถ้าไม่ใช้ความระมัดระวังให้ดีนักท่องเที่ยวก็อาจเดินไปเหยียบแนวปะการังเสียหาย หรืออาจเผลอเดินไปเหยียบดอกไม้ทะเล จนตนเองได้รับบาดเจ็บเอาง่ายๆ
|
..............................หมู่เรือในแสงทองยามรุ่งอรุณ..............................
|
|
..............................สีสันเมื่อแรกวัน ณ อ่าวช่องขาด..............................
|
2. อ่าวไม้งาม : คือ อ่าวขนาดกลางทางฝั่งทิศตะวันตกของเกาะสุรินทร์เหนือ (ถึงแม้ว่าตัวอ่าวจะตั้งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกของเกาะแต่ชายหาดไม้งามจะหันหน้าออกไปทางทิศเหนือ ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกได้อย่างชัดเจนเนื่องจากมีสันเขาบดบังทัศนวิสัยตามแนวเส้นทางการเคลื่อนตกของดวงอาทิตย์ครับ) เป็นสถานที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ที่ 3 (อ่าวไม้งาม) ซึ่งมีทั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ลานกางเต็นท์ ห้องน้ำรวม ร้านค้าและร้านอาหารสวัสดิการ แต่ยังไม่มีบ้านพัก
|
.....ดูแล้วก็แอบสงสัยเล็กๆ ว่านี่มันเรือทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์หรือเรือผู้อพยพเนี่ย ?.....
|
|
..............................ส่งของให้หน่วยพิทักษ์ฯ (อ่าวไม้งาม)..............................
|
อ่าวไม้งามมีแนวชายหาดสีขาวยาวสวยงามสะอาดตาเนื้อทรายค่อนข้างละเอียดแน่น บริเวณสุดปลายชายหาดด้านทิศตะวันตกมีผืนป่าโกงกางอันอุดมสมบูรณ์ ในช่วงเวลาราวกลางเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนเมษายนของทุกๆ ปีเมื่อน้ำทะเลรอบๆ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์เริ่มใสมากๆ นักท่องเที่ยวจะสามารถสังเกตเห็น “ลูกฉลามครีบดำ” ที่มักจะว่ายวนเวียนเข้ามาใกล้กับแนวป่าโกงกางดังกล่าวนี้ได้โดยง่าย (ตามปกติ “ฉลามครีบดำ” เป็นฉลามที่ไม่ได้มีนิสัยดุร้ายและไม่ทำร้ายคน นักท่องเที่ยวจึงสามารถเดินเข้ามาสังเกต “ลูกฉลามครีบดำ” ในป่าโกงกางได้อย่างค่อนข้างสบายใจครับ) การแวะมาดู “ลูกฉลามครีบดำ” บริเวณป่าโกงกางสุดปลายชายหาดด้านทิศตะวันตกของอ่าวไม้งามนี้ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมการท่องเที่ยวซึ่งผู้ที่เดินทางมาเยือนหมู่เกาะสุรินทร์ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
|
..............................เรือทัวร์ลอยลำเหนือผืนทะเลสีมรกต..............................
|
|
....................ที่นี่ หมู่เกาะสุรินทร์ อ.คุระบุรี จ.พังงา ประเทศไทย....................
|
.....ในช่วงเวลาที่น้ำทะเลลดลงต่ำ.....ผืนทรายใต้ทะเลบริเวณอ่าวไม้งามจะเผยให้เห็นแนวปะการังเสื่อมโทรมเก่าซึ่งทอดตัวยาวไกลออกไปนับร้อยเมตร มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่พักค้างแรมในบริเวณอ่าวแห่งนี้นิยมเดินออกไปสำรวจสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ซึ่งยังคงตกค้างอยู่ในแอ่งน้ำขังหรือหลบซ่อนตัวอยู่ใต้โขดหินปะการัง อาทิเช่น ปูม้า, ปูดำ, ปลาตีน (อาศัยอยู่ในบริเวณป่าโกงกาง), หนอนฉัตร (พบไม่บ่อย), ดอกไม้ทะเล (พบไม่บ่อย) และหากโชคดีมากๆ บางครั้งก็อาจได้พบเห็นสิ่งมีชีวิตหายากอย่าง “หมึกสายลายเสือ” ดังเช่นที่ทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมได้เคยเจอกับตามาแล้ว (นักท่องเที่ยวซึ่งจะเดินสำรวจสิ่งมีชีวิตเล็กๆ บริเวณอ่าวไม้งามในช่วงเวลาน้ำลงควรใช้ความระมัดระวังไม่เดินเหยียบย่ำลงไปบนแนวปะการังที่กำลังค่อยๆ ก่อตัวขึ้นใหม่นะครับ)
|
..................................................เอนเอียง..................................................
|
|
..........ขอบอกว่าป่าชายเลนริม อ่าวไม้งาม เกาะสุรินทร์เหนือ น้ำใสมากๆ..........
|
จุดดำน้ำตื้นบริเวณอ่าวไม้งามจะอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกของอ่าว นักท่องเที่ยวสามารถเดินจากชายหาดแล้วว่ายน้ำต่อออกไปยังจุดดำน้ำตื้นแห่งนี้ได้โดยไม่ลำบากในช่วงเวลาน้ำลง (หากเป็นช่วงเวลาน้ำขึ้นนักท่องเที่ยวจะต้องค่อยๆ ว่ายน้ำลอยคอออกมาจากชายฝั่งเป็นระยะทางไกลกว่าจะถึง “แนวปะการังที่ยังมีชีวิต” ครับ) แต่ถ้านักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์และทัวร์มีกำหนดการที่จะนำนักท่องเที่ยวมาดำน้ำตื้นบริเวณอ่าวไม้งามในวันนั้นๆ พอดี นายท้ายก็จะจอดเรือลอยลำอยู่เหนือจุดดำน้ำตื้นแล้วปล่อยให้นักท่องเที่ยวลงไปแหวกว่ายดูแนวปะการังใต้ผืนน้ำใสอย่างสะดวกสบาย สำหรับสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นได้ในบริเวณนี้มีตัวอย่างเช่น ปลาปักเป้า, ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า, ปลานกแก้ว, ปลาการ์ตูนส้มขาว, ดอกไม้ทะเล, ปะการังโขด, ปะการังโต๊ะ, ปะการังรังผึ้ง เป็นต้น
|
.....เราเรียกปลาชนิดนี้กันแบบสุภาพๆ ว่า.....ปลาเท้า (ชื่อจริง.....ปลาตีน).....
|
|
..... ลูกฉลามครีบดำที่มักจะว่ายวนเวียนเข้ามาใกล้ๆ กับแนวป่าชายเลนบริเวณอ่าวไม้งาม.....
|
.....ตามปกติ.....ทางอุทยานฯ จะไม่อนุญาตให้เรือทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ทุกๆ ประเภทแล่นเข้ามาจอดเทียบบริเวณหน้าหาดไม้งาม (ไม่ว่าจะเป็นเรือทัวร์ของเอกชนหรือเรือทัวร์ของทางอุทยานฯ ต่างก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาจอดเทียบเหมือนๆ กันครับ) เนื่องจากพื้นทรายใต้ท้องทะเลด้านหน้าชายหาดมีความลาดเอียงต่ำ อีกทั้งยังมีแนวปะการังซึ่งกำลังค่อยๆ ก่อตัวขึ้นใหม่ การปล่อยให้เรือทัวร์ใดๆ แล่นเข้ามาเทียบถึงหน้าชายหาดจึงอาจส่งผลกระทบต่อการก่อตัวของแนวปะการังวัยละอ่อนบริเวณด้านหน้าชายหาดได้.....ด้วยเหตุผลดังกล่าว.....นักท่องเที่ยวซึ่งเลือกพักค้างแรมที่อ่าวไม้งามจึงจำเป็นต้องลงจากเรือบริเวณอ่าวเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอ่าวไม้งาม แล้วแบกสัมภาระเดินผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางราว 200 เมตรมายังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์หลายๆ ท่านจะเรียกอ่าวเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอ่าวไม้งามว่า “200 เมตร” ตามระยะทางที่ต้องเดินจากศูนย์บริการฯ ไปยังอ่าวแห่งนี้ครับ)
|
...................................มองไปไกลๆ เห็นปากอ่าว...................................
|
|
..................................................หยั่งราก..................................................
|
3. อ่าวกระทิง : อ่าวสวยอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะสุรินทร์เหนือ เป็นสถานที่ตั้งของ “หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ หมู่เกาะสุรินทร์” อีกทั้งยังถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่มีความสวยงามมากที่สุดของหมู่เกาะสุรินทร์ด้วย สาเหตุที่อ่าวแห่งนี้ได้ชื่อว่า “อ่าวกระทิง” ก็เนื่องมาจากบริเวณพื้นที่โดยรอบอ่าวแห่งนี้มี “ต้นกระทิง” (หรือ “สารภีทะเล”) ขึ้นยืนต้นเจริญงอกงามเรียงรายกันอยู่มากมาย ในเวลาที่คลื่นลมสงบน้ำทะเลบริเวณด้านหน้าอ่าวแห่งนี้จะมีสีฟ้าอมเขียวอ่อนใสราวกับกระจก หาดทรายเป็นสีขาวนวลสะอาดตาดูสวยงามมาก
|
นักท่องเที่ยวที่พักค้างแรมอยู่บริเวณอ่าวไม้งาม
เวลาจะใช้บริการทัวร์ดำน้ำตื้นรายวันของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์.....ก็ต้องมาขึ้นเรือที่นี่
|
|
.........................ลำนี้เฉพาะเพื่อนพ้องและครอบครัว.........................
|
อ่าวกระทิงเป็นจุดดำน้ำตื้นซึ่งมัคคุเทศก์ประจำทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์มักจะพานักท่องเที่ยวมาเยือนอยู่เสมอๆ เนื่องจากเป็นอ่าวที่มีโอกาสพบเห็น “เต่าทะเล” ตัวเป็นๆ ได้ค่อนข้างบ่อย (ช่วงเวลาที่พบเห็นเต่าทะเลบริเวณอ่าวกระทิงได้ง่ายมักจะเป็นช่วงเวลาเช้าราว 9.00 – 10.30 น. บางครั้งขณะที่กำลังนั่งเรือหัวโทงผ่านอ่าวแห่งนี้นักท่องเที่ยวบางคนก็อาจมองเห็นเต่าทะเลกำลังแหวกว่ายอยู่ใต้ผืนน้ำใสได้เลยครับ) แต่ถ้าไม่ได้เห็นเต่าทะเลก็ยังมีแนวปะการังเขากวางซึ่งกำลังค่อยๆ ก่อตัวแผ่ขยายพื้นที่ออกมาเรื่อยๆ อยู่ใต้ผืนน้ำใสด้านทิศเหนือใกล้ๆ กับจุดเทียบเรือ 200 เมตร แต่ถ้าหากมัคคุเทศก์ประจำทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์พานักท่องเที่ยวไปดำน้ำตื้นบริเวณพื้นที่อ่าวด้านทิศใต้ก็จะมีโอกาสได้เห็นแนวปะการังโขดและฝูงปลากะพงลายพาดซึ่งเป็นเจ้าถิ่นในแถบนี้
|
..................................................ร่วมขบวน..................................................
|
|
...................................ขอนไม้..........ชายฝั่ง...................................
|
นักท่องเที่ยวซึ่งพักค้างแรมอยู่บริเวณ “อ่าวช่องขาด” หรือ “อ่าวไม้งาม” สามารถเดินมาชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่ด้านหน้าอ่าวกระทิงได้ด้วยตนเอง โดยในช่วงเวลาน้ำขึ้นแนะนำให้นักท่องเที่ยวเดินลัดเลาะแนวสันเขามาตาม “เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่าวไม้งาม – อ่าวกระทิง – อ่าวช่องขาด” เส้นทางดังกล่าวนี้มีระยะทางรวม 2 กิโลเมตร แบ่งเป็นระยะทางจาก “อ่าวไม้งาม – อ่าวกระทิง” ประมาณ 1.1 กิโลเมตร และระยะทางจาก “อ่าวกระทิง – อ่าวช่องขาด” อีกราว 900 เมตร ใช้เวลาในการเดินเท้าแต่ละช่วงนานประมาณ 20 – 30 นาที (หากรวมเวลาการเดินเท้าตลอดเส้นทางโดยไม่หยุดพักเลยจะใช้เวลาราว 45 – 60 นาที/เที่ยว ครับ) แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาน้ำลงนักท่องเที่ยวจะสามารถเดินลัดเลาะตามแนวชายฝั่งจาก “อ่าวช่องขาด” หรือ “อ่าวไม้งาม” มายังอ่าวกระทิงได้โดยไม่จำเป็นต้องขึ้นไปเดินบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติตามแนวสันเขาเลย (การเดินมาดูพระอาทิตย์ตกบริเวณอ่าวกระทิง แนะนำว่านักท่องเที่ยวควรพก “ไฟฉาย” หรือ “โทรศัพท์ที่สามารถเปิดไฟส่องสว่างได้” ติดตัวมาด้วยเพื่อใช้ส่องเส้นทางขณะเดินกลับ บางวันซึ่งน้ำลงนักท่องเที่ยวอาจเดินลัดเลาะตามแนวชายฝั่งมายังอ่าวกระทิงได้ แต่ช่วงขณะที่กำลังจะเดินทางกลับน้ำอาจค่อยๆ เริ่มสูงขึ้น.....นักท่องเที่ยวก็จำเป็นจะต้องเดินทางกลับโดยใช้เส้นทางศึกษาธรรมชาติแทนการเดินลัดเลาะไปตามแนวชายฝั่งครับ)
|
.........................ชิงช้าใต้ร่มไม้ริมเลที่ อ่าวกระทิง.........................
|
|
...................................สองสาวกลางดงพงไพร...................................
|
4. แหลมช่องขาด : นี่คือจุดดำน้ำตื้นบริเวณหัวแหลมทางด้านใต้สุดของเกาะสุรินทร์เหนือ แนวปะการังอยู่ลึกจากผิวน้ำลงไปค่อนข้างมากทำให้ไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดต่างๆ ในขณะ snorkeling ได้อย่างแจ่มชัดแม้จะเป็นวันที่น้ำทะเลค่อนข้างใส สำหรับสิ่งมีชีวิตที่สามารถพบเห็นได้ในบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเป็นปะการังโขด, ปะการังรังผึ้ง, ปะการังสมองร่องเล็กและปะการังดอกกะหล่ำ จากประสบการณ์ตรงของทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมซึ่งเคยใช้บริการ “ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์โดยอุทยานฯ” พบว่ากระแสน้ำในบริเวณนี้ไหลค่อนข้างแรง ขณะลงดำน้ำอาจรู้สึกเหนื่อยได้ง่ายๆ (แต่พวกเราก็ยังโชคดีที่มีโอกาสได้เห็นเต่าทะเลตัวหนึ่งกำลังแหวกว่ายช้าๆ อยู่ใต้ผืนน้ำใสในบริเวณนี้ครับ)
|
เหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2547
ได้ซัดเอาก้อนปะการังบางส่วนเข้ามาจนเกือบถึงชายหาด
|
|
...................................ทุกชีวิตล้วนต้องเดินทาง...................................
|
5. แหลมแม่ยาย – อ่าวแม่ยาย : อ่าวแม่ยายเป็นอ่าวขนาดใหญ่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสุรินทร์เหนือ ในอดีตอ่าวแห่งนี้เคยมีแนวปะการังที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ แต่ภายหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี พ.ศ. 2547 และปรากฏการณ์ฟอกขาวเมื่อปี พ.ศ. 2553 ก็ได้ทำให้แนวปะการังในบริเวณอ่าวแม่ยายตายลงเป็นวงกว้าง .....ปัจจุบัน....แนวปะการังบริเวณอ่าวแม่ยายกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ตามปกติมัคคุเทศก์ประจำทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์จะปล่อยให้นักท่องเที่ยวลงดำน้ำตื้นในบริเวณอ่าวแล้วกำหนดทิศทางให้ว่ายตามน้ำมุ่งหน้าไปทางแหลมแม่ยาย (แต่บางครั้งมัคคุเทศก์อาจกำหนดทิศทางให้นักท่องเที่ยวว่ายจากแหลมแม่ยายเข้าไปยังอ่าวก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพคลื่นลมและภูมิอากาศในขณะนั้นๆ ครับ)
|
....................สงบนิ่งเหนือแนวปะการัง....................
|
|
...............................เวลาน้ำลง..............................
|
6. แหลมไทรเอน : เป็นแหลมสุดปลายด้านทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์เหนือ จากข้อมูลของสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุไว้ว่าใต้ท้องทะเลบริเวณแหลมไทรเอนเป็นจุดซึ่งมีหญ้าทะเลเจริญงอกงามขึ้นอยู่เป็นแนวกว้างขวางที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยฝูงปลาและแนวปะการังสวยงาม.....อย่างไรก็ดี.....แหลมไทรเอนถือเป็นจุดรับลมของเกาะสุรินทร์เหนือ แถมยังอยู่ห่างจากจุดจอดพักเรือบริเวณ “อ่าวช่องขาด” และ “200 เมตร” มาก ส่งผลให้นายท้ายเรือประจำทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ไม่นิยมพานักท่องเที่ยวมาดำน้ำตื้นในบริเวณนี้สักเท่าไหร่
|
..............................ลิงกังกำลังอร่อย..............................
|
|
.........................ดอกผักบุ้งทะเลสีม่วงอ่อน.........................
|
7. อ่าวจาก : ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสุรินทร์เหนือ ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางโดยเรือหัวโทงจากจุดจอดเรือบริเวณ “อ่าวช่องขาด” หรือ “ 200 เมตร” มายังอ่าวจากราว 45 – 50 นาที เพราะฉะนั้นหากสภาพภูมิอากาศและคลื่นลมไม่เอื้ออำนวยก็ยากที่นายท้ายเรือของทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์จะพานักท่องเที่ยวมาเยือนอ่าวแห่งนี้ ตามเอกสารข้อมูลหมู่เกาะสุรินทร์ของสำนักงานอุทยานฯ กล่าวไว้ว่า อ่าวจากเป็นอ่าวขนาดใหญ่ ด้านในอ่าวมีปะการังเขากวาง ปะการังเขากวางพุ่ม และปะการังโขดสลับสับหว่างเรียงตัวผสมปนเปกันเป็นแนวกว้าง นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นหอยมือเสือรวมถึงปลาสีสันสวยงามได้หลากหลายชนิด
|
.........................เบื้องหน้าอ่าวช่องขาด.........................
|
|
.........................จังหวะสั่นสะเทือน สะท้อนไหว ในท้องทะเล.........................
|
8. เกาะรี (เกาะสตอร์ค) : เป็นเกาะเล็กๆ ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสุรินทร์เหนือ บนเกาะมีกระโจมไฟสัญญาณของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือตั้งอยู่ ทำให้ชาวเลในละแวกนี้นิยมเรียก “เกาะรี” หรือ “เกาะสตอร์ค” ในอีกชื่อหนึ่งว่า “เกาะไฟแว๊บ” (เรียกตามลักษณะการส่งสัญญาณไฟจากกระโจมบนเกาะครับ) ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะรีมีแนวปะการังแข็งสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ส่วนทางด้านทิศเหนือเป็นหลืบหินขนาดใหญ่อันเป็นสถานที่อาศัยของสัตว์ทะเลนานาชนิด บริเวณเกาะรีเป็นจุดดำน้ำตื้นอีกแห่งหนึ่งซึ่งมักจะพบเต่าทะเล หมึกกระดอง ปลาสิงโต และทากทะเลอยู่เสมอ มัคคุเทศก์ประจำทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์เล่าให้พวกเราฟังว่าบางครั้งก็อาจพบฝูงฉลามครีบดำตัวใหญ่ๆ ว่ายวนเวียนเข้ามาในบริเวณนี้สร้างความตื่นเต้นระคนหวาดเสียวให้แก่นักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย
|
ถึงแม้จะมีเรือหัวโทงปรากฎให้เห็นอยู่โดยรอบเขตพื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์
แต่เรือที่จะสามารถข้ามท้องทะเลกว้างจากชายฝั่ง จ.พังงา มาจนถึงหมู่เกาะแห่งนี้ได้
ในปัจจุบันก็มีเพียงแค่ Speed Boat เท่านั้น
|
|
.........................เบื้องหลังมีใบพัดขับเคลื่อน.........................
|
9. อ่าวสุเทพ : จากการลงดำน้ำตื้นสำรวจพื้นที่จริงของทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม พบว่า “อ่าวสุเทพ” ซึ่งเป็นอ่าวทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุรินทร์ใต้เป็นจุดดำน้ำตื้นซึ่งมีความสวยงามและมีความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังอยู่มากเมื่อเปรียบเทียบกับจุดดำน้ำตื้นแห่งอื่นๆ (จากข้อมูลการสำรวจของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์พบว่าบริเวณอ่าวสุเทพมีความยาวของแนวปะการังมากถึง 1,200 เมตรเลยทีเดียวครับ) สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่สามารถพบเห็นได้ในบริเวณอ่าวสุเทพมีตัวอย่างเช่น ปะการังโต๊ะ ปะการังโขด ปะการังเขากวางพุ่ม ปะการังเขากวาง ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังสมอง เป็นต้น.....อ่าวสุเทพเป็นอ่าวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเกาะสุรินทร์ใต้และถือเป็นจุดดำน้ำตื้นซึ่งผู้ใช้บริการทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ไม่ควรพลาด (แต่การจะได้มาดำน้ำตื้นบริเวณอ่าวสุเทพหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและคลื่นลมในแต่ละวันด้วยนะครับ)
|
.........................ป่าปะการังบริเวณอ่าวสุเทพ.........................
|
|
....................ดอกไม้ทะเล คือ บ้านของปลาการ์ตูน....................
|
10. อ่าวเรือปู : อ่าวขนาดย่อมซึ่งอยู่ติดกับแหลมทางด้านทิศเหนือของอ่าวสุเทพ (อ่าวเรือปูตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุรินทร์ใต้เช่นเดียวกันกับอ่าวสุเทพครับ) มัคคุเทศก์ประจำทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์สันนิษฐานให้พวกเราฟังว่า สาเหตุที่อ่าวแห่งนี้ได้ชื่อว่า “อ่าวเรือปู” น่าจะเป็นเพราะเมื่อกาลอดีตชาวเลนิยมล่องเรือนำลอบมาทิ้งไว้ในอ่าวเพื่อดักจับปูในบริเวณนี้อยู่เสมอ ลักษณะแนวปะการังที่พบในบริเวณอ่าวเรือปูมีความสวยงาม หลากหลาย และมีความอุดมสมบูรณ์ใกล้เคียงกับแนวปะการังในบริเวณอ่าวสุเทพ
|
...................................ตีวง 360 องศา...................................
|
|
หากลองสังเกตลักษณะของก้อนหินในทะเลให้ดีๆ
ก็จะสามารถบ่งบอกถึงแนวที่ระดับน้ำเคยขึ้นสูงสุดได้
|
11. เกาะกลาง (เกาะปาจุมบา) : กลุ่มชาวเลได้ขนานนามเกาะขนาดย่อมซึ่งอยู่ห่างออกมาทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะสุรินทร์ใต้ในอีกชื่อหนึ่งว่า “เกาะมังกร” (บางครั้งก็อาจเรียกว่า “เกาะปาจุมบา” หรือ “เกาะกลาง” ครับ) เนื่องจากใต้ผืนน้ำอันอุดมสมบูรณ์ของเกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยกุ้งมังกรจำนวนมาก แต่ถ้านักท่องเที่ยวไปดำน้ำตื้นในช่วงเวลากลางวันก็อาจจะไม่สามารถมองเห็นกุ้งมังกรได้อย่างชัดเจนสักเท่าไหร่นัก เพราะพวกมันจะหลบซ่อนตัวอยู่ภายใต้ซอกหลืบหินและออกมาหากินเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน (.....ในช่วงเวลากลางวัน.....ชาวเลหรือมัคคุเทศก์ประจำทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ที่มีความเชี่ยวชาญจะใช้วิธีสังเกตหนวดกุ้งมังกรซึ่งยื่นยาวออกมาจากซอกหิน แล้วดำน้ำลงไปจับหนวดของพวกมันเพื่อนำตัวกุ้งมังกรออกมาได้ครับ)
|
....................ที่หมู่เกาะสุรินทร์..........ทะเลใสมาก....................
|
|
...................................ศิลาแห่งอันดามัน...................................
|
12. อ่าวสับปะรด : นี่คืออ่าวเล็กๆ ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์ใต้ เป็นจุดดำน้ำตื้นของหมู่เกาะสุรินทร์ที่สามารถพบเห็นแนวปะการังโขด ปะการังเขากวางพุ่ม ปะการังเขากวาง ปะการังรังผึ้ง และปลาทะเลหลากหลายชนิด บางครั้งหากบังเอิญมากจริงๆ นักท่องเที่ยวก็อาจได้พบเห็น “งูทะเล” ซึ่งค่อยๆ ว่ายออกจากแนวปะการังเพื่อขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ (ผู้เขียนบทความได้พบเจอกับงูทะเลด้วยตัวเองจริงๆ ในบริเวณอ่าวแห่งนี้ และถือว่าโชคดีมากที่สามารถถ่ายภาพมาได้โดยไม่โดนกัดครับ) ในกรณีที่พบเห็นงูทะเลแนะนำว่าไม่ควรว่ายน้ำเข้าไปใกล้ๆ โดยเด็ดขาดเนื่องจากงูทะเลส่วนใหญ่มีพิษร้ายแรง หากโดนกัดก็อาจทำให้เสียชีวิตได้
|
..........หมึกสายลายเสือ สัตว์ทะเลหายากที่ได้เจอช่วงน้ำลงบริเวณอ่าวไม้งาม..........
|
|
.........................หนอนฉัตร จ้า.....า....า...า..า.........................
|
13. อ่าวเต่า : แค่เห็นชื่อ “อ่าวเต่า” นักท่องเที่ยวหลายๆ คนก็คงจะเดาได้ไม่ยากว่าอ่าวแห่งนี้เป็นจุดดำน้ำตื้นที่สามารถพบเห็นเต่าทะเลได้อยู่เสมอๆ (แต่จะได้เห็นเต่าหรือไม่ ? ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับดวงนะครับ) อ่าวเต่าเป็นอ่าวเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสุรินทร์ใต้ มีหาดทรายสีขาวนวลสวยงามสะอาดตา แต่ทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์รายใดๆ พานักท่องเที่ยวขึ้นไปบนชายหาด เนื่องจากชายหาดของอ่าวเต่าเป็นเขตพื้นที่อนุรักษ์ซึ่งสงวนไว้เพื่อให้เต่าทะเลได้ใช้ในการวางไข่
|
.........................หินรูปไก่ ? เหมือนไหมหนอ.........................
|
|
...............Could you be the most beautiful girl in the world ?...............
|
14. อ่าวผักกาด : ในอดีตบริเวณอ่าวผักกาดเคยมีทุ่งปะการังเขากวางที่สวยงามกินอาณาบริเวณกว้างหลายร้อยตารางเมตร แต่ภายหลังจากเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวในบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์เมื่อช่วงปลายปี 2553 ก็ได้ทำให้ทุ่งปะการังเขากวางที่เคยมีเกิดความเสียหายไปมากกว่าร้อยละ 80 .....ปัจจุบัน.....แนวปะการังบริเวณอ่าวผักกาดยังถือได้ว่ามีการฟื้นตัวน้อยกว่าบริเวณอื่นๆ นักท่องเที่ยวอาจพบเห็นปะการังโขด ปะการังช่องหินอ่อน ปะการังโต๊ะ หรือปะการังชนิดอื่นๆ ได้ประปราย บางครั้งก็อาจได้เจอกับปลาหลดหิน (ปลาไหลมอเรย์) กำลังกึ่งว่ายกึ่งเลื้อยอยู่ตามแนวปะการังเสื่อมโทรม
|
..........เรือปฏิบัติการขนาดเล็กของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์..........
|
|
...................................Lazy day in Thailand...................................
|
อ่าวผักกาดตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะสุรินทร์ใต้ และถึงแม้แนวปะการังในบริเวณอ่าวแห่งนี้จะยังไม่กลับมาสดสวยเหมือนกับกาลอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่การมาดำน้ำตื้นบริเวณอ่าวผักกาดก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจซึ่งนักท่องเที่ยวที่เลือกใช้บริการทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์หลายๆ คนคาดหวังว่าจะได้พบเห็น.....นั่นก็คือ “ฝูงฉลามครีบดำวัยรุ่น” ขนาดตัวราว 1.5 – 2 เมตร (เป็นฉลามครีบดำซึ่งเติบโตขึ้นแล้วในระดับหนึ่ง มีขนาดตัวใหญ่กว่า “ลูกฉลามครีบดำ” ที่มักจะพบเห็นใกล้ๆ กับป่าโกงกางบริเวณอ่าวไม้งามครับ) โดยนักท่องเที่ยวจะสามารถพบเห็นฝูงฉลามเหล่านี้ได้เรื่อยๆ ในบริเวณใต้ท้องน้ำใกล้กับหัวแหลมทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอ่าวผักกาด
|
...........ฝูงปลาสลิดหินลายบั้งกับฝูงปลากล้วยสีฟ้ากำลังแหวกว่ายอยู่เหนือแนวปะการังโขด..........
|
|
...............ปลากะพงลายพาด เจ้าถิ่นประจำจุดดำน้ำตื้นระหว่างอ่าวช่องขาด - อ่าวกระทิง...............
|
15. เกาะไข่ (เกาะตอรินลา) : เกาะเล็กๆ ทางตอนใต้สุดของหมู่เกาะสุรินทร์ จุดกำเนิดของชื่อ “เกาะไข่” มีสาเหตุมาจากลักษณะของหาดทรายซึ่งเป็นสีขาวนวลอมเหลืองอ่อนๆ คล้ายกับสีเปลือกไข่ (คนสมัยโบราณนิยมตั้งชื่อเกาะ ภูเขา หรือชื่อสถานที่ต่างๆ ตามลักษณะทางกายภาพที่เห็น ดังนั้นเราจึงได้ยินชื่อ “เกาะไข่” ซ้ำกันในหลายๆ จังหวัด อาทิเช่น เกาะไข่ จ.สตูล, เกาะไข่ จ.ชุมพร เป็นต้น.....แม้กระทั่งใน จ.พังงา ก็ยังมีเกาะไข่ถึง 2 แห่ง ได้แก่ หมู่เกาะไข่ใกล้ๆ กับเกาะยาวใหญ่ และเกาะไข่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ แต่เกาะไข่ซึ่งกล่าวถึงมาทั้งหมดข้างต้นนี้ก็ไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งเดียวกันเลยครับ)
|
.........................3 สาวน้อยชาวต่างประเทศ.........................
|
|
...................................Precious things...................................
|
เกาะไข่เป็นจุดดำน้ำตื้นอีกแห่งหนึ่งในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ที่สามารถพบเห็น “ฉลามครีบดำ” ได้อยู่เสมอ และถึงแม้ว่าแนวปะการังเขากวางอันกว้างใหญ่ไพศาลใต้ท้องทะเลของเกาะไข่จะได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ฟอกขาวเมื่อปี พ.ศ. 2553 เสียหายไปเป็นบริเวณกว้าง แต่นักท่องเที่ยวก็ยังจะสามารถพบเห็นสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลของเกาะไข่ซึ่งยังคงมีความหลากหลายได้ไม่ยาก สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลบริเวณเกาะไข่ที่นักท่องเที่ยวจะพบเจอได้นอกจากฉลามครีบดำมีตัวอย่างเช่น ปะการังแผ่นเปลวไฟสีฟ้า ปะการังโขด ปะการังสมอง ปะการังแปรงล้างขวด ปะการังรังเขากวางพุ่ม ดาวทะเล ปลาขี้ตังเบ็ด ฝูงปลาสินสมุทรกลุ่มใหญ่ ปลาผีเสื้อหลากชนิด ปลาไหลริบบิ้น ปลาไหลสวน ปลากะรังหน้างอน ฉลามเสือดาว เป็นต้น
|
.........................เปลือกลูกสำโรง, โขดหิน และประกายทะเล.........................
|
|
บางสิ่งบางอย่างที่ผู้คนส่วนใหญ่อาจไม่เคยเห็นคุณค่า
แต่เมื่อนำมาจับประกอบรวมกันมันก็สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย
|
16. กองหินริเชลิว : กองหินปริ่มน้ำกลางทะเลซึ่งอยู่ห่างออกไปทางด้านทิศตะวันออกของหมู่เกาะสุรินทร์ราว 14 กิโลเมตร โดยปกติจะไม่มีผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์รายใดๆ นำกลุ่มนักท่องเที่ยวไปดำน้ำตื้นในบริเวณกองหินแห่งนี้ (กองหินริเชลิวเป็นจุดดำน้ำลึก.....เพราะฉะนั้นจึงมีแค่ผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ที่เปิดให้บริการดำน้ำลึกเท่านั้นที่จะพากลุ่มนักท่องเที่ยวมาเยือนกองหินริเชลิว) .....ว่ากันว่า.....จุดดำน้ำลึกบริเวณกองหินริเชลิวมีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามมาก อีกทั้งยังเป็นจุดดำน้ำที่สามารถพบเห็นฉลามวาฬซึ่งว่ายแวะเวียนเข้ามาหาอาหารได้อยู่บ่อยๆ
|
.............................................เหลียวมอง.............................................
|
|
..................................ฟ้าใสทะเลสวยหน้าอ่าวกระทิง..................................
|
17. หินแพ (หินกอง) : กองหินพ้นน้ำซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะสุรินทร์เหนือ (และอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะสุรินทร์ใต้ครับ) เป็นจุดดำน้ำซึ่งมีแนวปะการังเขากวางเจริญเติบโตอยู่เป็นผืนใหญ่ มีฝูงปลาอาศัยอยู่ชุกชุมโดยเฉพาะปลาสลิดหินลายบั้งและปลาข้างเหลือง
18. หินราบ : เป็นกองหินพ้นน้ำกลางท้องทะเลทางด้านทิศเหนือของหมู่เกาะสุรินทร์ โดยปกติจะไม่มีผู้ประกอบการทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์รายใดๆ พานักท่องเที่ยวไปดำน้ำตื้นในบริเวณหินราบ ด้วยเหตุดังกล่าวทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมจึงยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับจุดดำน้ำแห่งนี้
|
..................................ปลาปักเป้าตัวป้อม..................................
|
|
........................โชคดีที่ถ่ายภาพเจ้าตัวนี้มาได้โดยไม่โดนกัด........................
(งูทะเลเกือบทุกชนิดมีพิษร้ายแรง หากมีโอกาสพบเจอก็ไม่ควรมัวแต่ถ่ายภาพนะครับ)
|
19. อ่าวบอนเล็ก : ในอดีตชาวมอแกนส่วนใหญ่เคยตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่บนชายฝั่งบริเวณ “แหลมไทรเอน” และ “อ่าวบอนเล็ก” (อ่าวบอนเล็ก เป็นอ่าวขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์ใต้ครับ) แต่ภายหลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 บ้านเรือนของชาวมอแกนก็ได้ถูกคลื่นยักษ์ซัดทำลายพังเสียหายไปจนหมดสิ้น ส่งผลให้กลุ่มชาวมอแกนจำต้องย้ายไปพำนักอาศัยอยู่ในบ้านซึ่งมีอาสาสมัครมาช่วยก่อสร้างทดแทนให้ในบริเวณอ่าวบอนใหญ่
|
........................ใต้ท้องทะเลใกล้ เกาะไข่ (เกาะตอรินลา)........................
|
|
....................ปะการังเขากวางสีม่วงกับคู่รักปลาผีเสื้อ....................
|
อ่าวบอนเล็กเป็นจุดดำน้ำตื้นอีกแห่งหนึ่งซึ่งกลับฟื้นตัวจากปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวเมื่อปี พ.ศ. 2553 ได้เป็นอย่างดี หากทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์นำนักท่องเที่ยวมาดำน้ำตื้นในบริเวณนี้ก็จะได้พบเห็นแนวปะการังโขด ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังเขากวางพุ่ม ปะการังจาน ปะการังผิวเกล็ดน้ำแข็ง ปะการังกาแล็กซี่ ปลาสลิดลายบั้ง ปลากล้วย ปลาจิ้มฟันจระเข้ ฯลฯ นอกจากนี้มัคคุเทศก์ประจำทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ยังเล่าให้พวกเราฟังอีกว่า ถ้าโชคดีมากๆ บางครั้งก็อาจพบเห็น “ม้าน้ำ” ในบริเวณใต้ท้องทะเลของอ่าวบอนเล็กได้ด้วย
|
.........................1.....2.....3..........Action !.........................
|
|
...................................แล่นเรือฝ่าทะเลใส...................................
|
20. หมู่บ้านมอแกน (อ่าวบอนใหญ่) : ชาวเลในประเทศไทยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ด้วยกันทั้งหมด 3 กลุ่ม คือ มอแกน, มอแกลน และอูรักลาโว้ย โดยชาวเลทุกๆ กลุ่มจะตั้งบ้านเรือนอยู่ตามชายทะเลและเกาะต่างๆ ในฝั่งทะเลอันดามันทางตอนใต้ของประเทศไทย สำหรับชาวมอแกลนและอูรักลาโว้ยในปัจจุบันถือได้ว่ามีรูปแบบวิถีชีวิตซึ่งเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อครั้งอดีตมากเนื่องจากมีการติดต่อปฏิสัมพันธ์กับคนไทยท้องถิ่นอยู่บ่อยครั้ง ส่วนชาวมอแกนแห่งหมู่เกาะสุรินทร์นั้นเป็นกลุ่มชาวเลที่ยังคงสามารถรักษาขนมธรรมเนียม วัฒนธรรมประเพณี ความเชื่อ และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้ได้มากที่สุด
|
........................................@ Moken Village........................................
|
|
.........................หมู่บ้านของเหล่ายิปซีแห่งท้องทะเล.........................
|
แรกเริ่มเดิมที.....ชาวมอแกนเคยมีวิถีชีวิตแบบชนเผ่าเร่ร่อนทำมาหากินอยู่ตามหมู่เกาะและแถบชายฝั่ง ต่อมาเมื่อการแบ่งแยกเส้นเขตแดนระหว่างประเทศต่างๆ เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นก็ส่งผลให้การอพยพโยกย้ายถิ่นฐานไม่สามารถกระทำได้อย่างอิสระดังเช่นในกาลอดีต ชาวมอแกนซึ่งเคยใช้วิถีชีวิตแบบร่อนเร่พเนจรจึงจำเป็นต้องปรับตัวตามกระแสของความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จากที่เคยใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บนเรือตระเวนเดินทางไปเรื่อยๆ ก็หันมาปลูกบ้านพักอาศัยอยู่ตามอ่าวอันเป็นจุดหลบคลื่นลมและใช้ชีวิตแบบติดที่มากขึ้น
|
..........ทุกวันนี้ชาวมอแกนได้หันมาใช้เรือหัวโทงทดแทนเรือก่าบางกันหมดแล้ว..........
|
|
....................กลุ่มเรือฉ่าพันซึ่งวางเรียงรายอยู่บนผืนทราย....................
|
หากลองถามชาวมอแกนแห่งหมู่เกาะสุรินทร์ว่า “มอแกน (Moken)” แปลว่าอะไร ? เราก็จะได้รับคำตอบที่เหมือนๆ กันว่า “หม่ายรุ (ไม่รู้)” แต่มีข้อสันนิษฐานจากนักมานุษยวิทยาชื่อ Jacques Ivanoff เคยเขียนไว้ว่า “มอแกน” น่าจะเป็นชื่อเรียกซึ่งย่นย่อมาจากคำว่า “ละมอ” ที่แปลว่า “จม” ในภาษาของชาวมอแกน ผนวกกับคำว่า “แกน” อันเป็นชื่อน้องสาวของราชินีในตำนานเก่าแก่ของชนเผ่ามอแกน ถ้าจะสรุปตำนานดังกล่าวแบบรวบยอดก็คงจะสามารถเล่าคราวๆ ได้ว่า.....น้องสาวของราชินีไปแย่งคนรักของพี่สาว ด้วยเหตุนี้เธอ (น้องสาวของราชินี) และพรรคพวกจึงถูกสาปแช่งให้ต้องใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่กลางท้องทะเล สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับตำนานฉบับเต็มของชาวมอแกนสามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือชื่อ “Rings of Coral : Moken Folktales”
|
...............ร่องรอยบ่งบอกถึงประสบการณ์และเรื่องราวที่เคยผ่านพ้น...............
|
|
........................................บรรดาผู้มาเยือน........................................
|
.....ก่อนเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ.....ชาวมอแกนแห่งหมู่เกาะสุรินทร์เคยปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่บนชายฝั่งบริเวณแหลมไทรเอนและอ่าวบอนเล็ก แต่ภายหลังจากที่คลื่นยักษ์อันเกรี้ยวกราดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ได้ถาโถมซัดสาดเข้าทำลายสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เสียหายไปเป็นอันมาก กลุ่มชาวมอแกนจึงจำเป็นต้องย้ายมาปลูกสร้างบ้านเรือนพำนักอาศัยอยู่ในบริเวณ “อ่าวบอนใหญ่” ซึ่งเป็นอ่าวขนาดใหญ่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะสุรินทร์ใต้แทน (เหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เป็นเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาเกี่ยวกับท้องทะเลของชาวมอแกนได้อย่างชัดเจน เนื่องจากกลุ่มชาวมอแกนสังเกตเห็นน้ำทะเลซึ่งเหือดแห้งลงไปอย่างรวดเร็วผิดปกติ พวกเขาจึงร้องตะโกนเตือนครอบครัวและกลุ่มนักท่องเที่ยวให้วิ่งหนีขึ้นไปอยู่บนเนินเขาสูงเนื่องจากทราบว่า “ละบูน” หรือ “คลื่นใหญ่” กำลังจะมา ส่วนนายท้ายเรือชาวมอแกนที่กำลังล่องเรืออยู่กลางทะเลก็รีบนำเรือแล่นออกห่างจากชายฝั่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะรู้ดีว่าหากเรือยังคงอยู่ใกล้ชายฝั่งคลื่นยักษ์ก็จะม้วนเรือของพวกเขาเข้ากระแทกกับหาดทราย ต้นไม้ รวมถึงสิ่งปลูกสร้างต่างๆ จนต้องได้รับบาดเจ็บหรือล้มตายกันอย่างแน่นอน .....ทั้งนี้.....ในเหตุการณ์ภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิที่หมู่เกาะสุรินทร์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ไม่ปรากฏว่ามีชนเผ่ามอแกนคนใดๆ เสียชีวิตเลยแม้แต่คนเดียวครับ)
|
.........................จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน.........................
|
|
........................................ส่องทางไกล........................................
|
ตามความเชื่อดั้งเดิมของชาวมอแกน พวกเขาจะนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณต่างๆ ในธรรมชาติ รวมถึงวิญญาณของบรรพบุรุษโดยมี “เสาหล่อโบง” หรือ “เสาวิญญาณบรรพบุรุษ” เป็นสัญลักษณ์ตัวแทนแห่งความเชื่อของชนเผ่า (เสาหล่อโบงเพศชายจะเรียกว่า “แอบ๊าบ” ส่วนเสาหล่อโบงเพศหญิงจะเรียกว่า “เอบูม” ครับ) ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนหมู่เกาะสุรินทร์จะสามารถพบเห็นเสาไม้หล่อโบงได้บริเวณริมชายหาดด้านหน้าหมู่บ้านมอแกน อ่าวบอนใหญ่ และใต้ร่มไม้ด้านหน้าโรงอาหารสวัสดิการอ่าวไม้งามใกล้ๆ กับชายหาด (บริเวณด้านหน้าที่ทำการอ่าวช่องขาดก็จะมี “เสาหล่อโบงจำลอง” ซึ่งทำมาจากปูนเรียงอยู่ข้างๆ เสาธงทั้ง 2 ด้าน. แต่เสาหล่อโบงจริงๆ ของชาวมอแกนจะต้องแกะสลักขึ้นมาจากไม้ครับ)
|
.......เสาหล่อโบง หรือ เสาวิญญาณบรรพบุรุษ สัญลักษณ์ตัวแทนความเชื่อแห่งชนเผ่า.......
|
|
.........................บัวในสระกักเก็บน้ำจืดบน เกาะสุรินทร์เหนือ.........................
|
ในวันขึ้นเดือนห้าตามปฏิทินทางจันทรคติของทุกๆ ปี ชาวมอแกนแห่งหมู่เกาะสุรินทร์จะมีพิธีฉลองเสาบรรพบุรุษที่เรียกว่า “เหน่เอนหล่อโบง” ซึ่งในวันดังกล่าวบางครั้งก็จะมีการลอยเรือสะเดาะเคราะห์ “ก่าบางชวาย” ตามความเชื่อที่ว่าการปล่อยเรือจะช่วยนำเอาทุกข์โศก โรคภัยไข้เจ็บ และเคราะห์ร้ายต่างๆ ออกไปจากชุมชน.....สำหรับเรือ “ก่าบาง” นั้นเป็นเรือขุดเสริมกราบไม้ระกำ ใช้ใบเตยทะเลเย็บเข้าด้วยกันเป็นใบเรือและหลังคา มีรอยหยักเว้าที่หัวเรือและท้ายเรือ มีแจวลำละ 4 – 6 แจวเผื่อเอาไว้ใช้ในช่วงเวลาซึ่งไม่มีลมทะเล มีเตาไฟตั้งอยู่ภายในเรือ เมื่อครั้งอดีตในช่วงฤดูที่ท้องทะเลราบเรียบไม่ค่อยมีคลื่นลมชาวมอแกนจะใช้เรือก่าบางเป็นทั้งบ้านและพาหนะเดินทางไปตามเกาะต่างๆ (สมัยก่อน.....ชาวมอแกนอาจใช้ชีวิตอยู่บนเรือก่าบางได้เป็นเดือนๆ โดยไม่ต้องลงมาเหยียบชายฝั่งเลยครับ) แต่หากเป็นช่วงฤดูมรสุมกลุ่มชาวมอแกนยุคเก่าก็จะขึ้นมาปลูกสร้างบ้านเรือนชั่วคราวอาศัยอยู่บนชายฝั่งซึ่งเป็นจุดหลบคลื่นลม แล้วใช้เรือขุดจากไม้ทั้งต้นอีกแบบหนึ่งซึ่งเรียกว่าเรือ “ฉ่าพัน” แจวสัญจรไปมาในบริเวณพื้นที่ใกล้ๆ ชายฝั่งแทนเรือก่าบาง
|
...................................สองคนซักผ้า...................................
|
|
...................................บ้านของชาวมอแกน...................................
|
.....ทุกวันนี้.....ชาวมอแกนแห่งหมู่เกาะสุรินทร์ได้หันมาใช้ “เรือหัวโทง” ทดแทนเรือก่าบางและเรือฉ่าพันกันหมดทุกครัวเรือนแล้ว แต่นักท่องเที่ยวซึ่งมีโอกาสเดินทางมาเยือนหมู่บ้านมอแกนที่อ่าวบอนใหญ่ก็ยังมีโอกาสได้พบเห็นซากเรือก่าบางใกล้ๆ กับทางเข้าพิพิธภัณฑ์ชนเผ่ามอแกน (และภายในพิพิธภัณฑ์ชนเผ่ามอแกนก็ยังมีแบบจำลองของเรือก่าบางขนาดย่อจัดแสดงไว้ด้วยครับ) และถ้าลองเดินสำรวจหมู่บ้านมอแกนให้ทั่วๆ ก็จะพบเห็นเรือฉ่าพันเก่าๆ ซึ่งวางเรียงรายอยู่บนชายหาดอีกหลายลำ
|
...................................จำหน่ายของที่ระลึก...................................
|
|
...................................ความสุขในครอบครัว...................................
|
ความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้สำหรับทุกๆ สรรพสิ่งซึ่งกอปรไปด้วยเหตุปัจจัยปรุงแต่ง ดังเช่นวิถีชีวิตของชาวมอแกนที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปเมื่อวันเวลาล่วงเลยผ่าน การเปลี่ยนแปลงสำคัญในวิถีชีวิตของชาวมอแกนแห่งหมู่เกาะสุรินทร์เริ่มเกิดขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. 2539 เมื่อเด็กๆ ชาวมอแกนได้เข้าสู่ระบบการศึกษาในโรงเรียนซึ่งใช้ภาษาไทยเป็นสื่อในการสอน ทำให้พวกเขาซึมซับภาษาไทยและเพลงไทยมากขึ้น ส่งผลให้จากที่เคยมีความสุขกับการร้องเพลงดั้งเดิมของชาวมอแกนซึ่งบรรยายถึงความงดงามในธรรมชาติ การเดินทางไปตามเกาะต่างๆ การทำมาหากินทางทะเล ความสุขในการพบปะคนรัก ฯลฯ ก็กลับกลายมาเป็นการมีความสุขกับการร้องเพลงภาษาไทยยอดนิยมแทน
|
.............................................หยอกล้อ.............................................
|
|
...................................ณ หมู่บ้านมอแกน เกาะสุรินทร์ใต้...................................
|
ในสมัยก่อนอาหารหลักของชาวมอแกนคือ หัวมัน หัวกลอย ยอดไม้ พืชผัก ผลไม้ป่า ปลา กุ้ง ปู หอย และอาหารทะเลชนิดต่างๆ ส่วนข้าวนั้นถือว่าเป็นอาหารพิเศษซึ่งหายาก แต่เมื่อชาวมอแกนแห่งหมู่เกาะสุรินทร์ถูกดึงเข้ามาสู่ระบบการค้าขายแลกเปลี่ยนสมัยใหม่ ข้าวจึงกลายมาเป็นอาหารหลักของชาวมอแกนเนื่องจากสามารถเก็บรักษาได้นานไม่เหมือนกับอาหารสดประเภทอื่นๆ ที่เน่าเสียง่าย ปัจจุบันชาวมอแกนจะขายสัตว์ทะเลเพื่อแลกซื้อข้าวสารตุนเอาไว้เป็นกระสอบๆ เพื่อรับประกันความอิ่มท้องโดยเฉพาะในช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งท้องทะเลมีคลื่นลมแรงและออกเดินเรือจับสัตว์น้ำได้ยากลำบาก .....อย่างไรก็ดี.....ชาวมอแกนบางคนก็หันมาติดใจอาหารขยะประเภทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยวเป็นถุงๆ และน้ำอัดลมรสซ่า ส่งผลให้สุขภาพของชาวมอแกนแห่งหมู่เกาะสุรินทร์บางส่วนย่ำแย่ลงกว่าเมื่อกาลก่อน
|
.........................ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำหน้าอ่าวกระทิง.........................
|
|
...................................อุ่นไอในยามเย็น...................................
|
.....เมื่อครั้งอดีตในยามที่ชาวมอแกนแห่งหมู่เกาะสุรินทร์เจ็บป่วย.....พวกเขาก็จะหันไปพึ่งหมอพื้นบ้านซึ่งรักษาโดยการเข้าทรง เพื่อเจรจากับวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขอให้ช่วยปัดเป่าความเจ็บป่วยออกไปร่วมกับการใช้ยาสมุนไพรหลายอย่าง ส่วนการคลอดก็จะอาศัยหมอตำแยที่เป็นป้าๆ ชาวมอแกนซึ่งมีความรู้และประสบการณ์ในการทำคลอดเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ชาวมอแกนแห่งหมู่เกาะสุรินทร์จะหันมาใช้ยาและการรักษาแผนปัจจุบันมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีวิธีการทำคลอดโดยหมอตำแยและยังรักษาประเพณีการอยู่ไฟภายหลังคลอดเพื่อช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วเอาไว้อยู่
|
..............................อย่างนี้สิที่เรียกว่าเข้าเป้า !..............................
|
|
..............................พักผ่อนตามอัธยาศัย..............................
|
เพื่อช่วยให้กลุ่มชาวมอแกนแห่งหมู่เกาะสุรินทร์ยังคงสามารถธำรงรักษาเอกลักษณ์สำคัญทางด้านประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญาจากอดีตกาลเอาไว้ได้ท่ามกลางกระแสแห่งโลกาภิวัฒน์ ทางหน่วยงานราชการจึงได้มีการจัดทำเอกสารสื่อสิ่งพิมพ์ในรูปแบบของหนังสืออ่านเพิ่มเติมเอาไว้ให้เด็กๆ ชาวมอแกนแห่งหมู่เกาะสุรินทร์ได้เรียนรู้ โดยหวังว่าพวกเด็กๆ เหล่านี้จะเกิดความภาคภูมิใจในวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวมอแกน และช่วยกันอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรม รวมถึงประเพณีอันงดงามนับตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตาทวดให้คงอยู่สืบต่อไป (หนังสืออ่านเพิ่มเติมสำหรับเด็กนักเรียนชาวมอแกนมีตัวอย่างเช่น ชีวิตพวกเราชาวทะเล, ชุมชนมอแกนและอูรักลาโว้ยกับพื้นที่คุ้มครอง, ชีวิตพวกเราชาวมอแกน.....หมู่เกาะสุรินทร์ พังงา เป็นต้น)
หมู่บ้านมอแกนถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาเยือนหมู่เกาะสุรินทร์หรือเลือกใช้บริการทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์แบบต่างๆ พลาดไม่ได้
|
...................................ใกล้..........ไกล...................................
|
|
...................................Golden Time...................................
|
การเดินทางสู่หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา
ดังที่ได้เขียนอธิบายไว้ตั้งแต่ช่วงต้นของบทความแล้วว่า นักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะเดินทางไปยังหมู่เกาะสุรินทร์จำเป็นจะต้องนั่งเรือ Speedboat ไปเท่านั้น ซึ่งทางเลือกในการเดินทางก็จะมีอยู่เพียงแค่ 2 รูปแบบ ได้แก่
1. ซื้อเฉพาะตั๋วเรือไปกลับหมู่เกาะสุรินทร์ : เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวซึ่งต้องการจะพักค้างแรมอยู่บนเกาะสุรินทร์เหนือตั้งแต่ 2 วัน 1 คืนขึ้นไป (ถ้าอยากเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ให้ทั่วๆ ก็ควรมีเวลาอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน ขึ้นไปครับ) โดยนักท่องเที่ยวจะต้องทำการจองที่พักของอุทยานฯ มาเอง (สามารถเลือกจองได้ทั้งบ้านพักและเต็นท์ หากเป็นบ้านพักควรจองล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 1 เดือน มิฉะนั้นบ้านพักอาจเต็มครับ) แต่ไม่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนจะเดินทางมายังหมู่เกาะสุรินทร์แบบเช้าไปเย็นกลับ เนื่องจากเมื่อ Speedboat มาถึงหมู่เกาะสุรินทร์ในเวลาประมาณ 9.30 – 10.00 น. เรือทัวร์ดำน้ำตื้นของทางอุทยานฯ รอบเช้าก็จะออกจากฝั่งไปเรียบร้อยแล้ว และหากคิดจะใช้บริการทัวร์ดำน้ำตื้นของทางอุทยานฯ ช่วงบ่ายซึ่งเรือจะออกในเวลาประมาณ 14.00 – 14.30 น. ก็จะไม่สามารถกลับมาขึ้น Speedboat กลับไปยังฝั่ง อ.คุระบุรี ได้ทันอย่างแน่นอน (สรุปคือถ้ามีเวลาเที่ยววันเดียวแล้วคิดจะประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการซื้อแค่ตั๋วเรือไปกลับ ก็จะทำได้เพียงเดินเล่นริมชายหาดของเกาะสุรินทร์เหนือและต้องดำน้ำตื้นด้วยตนเองอยู่ใกล้ๆ ด้านหน้าชายหาดโดยไม่มีมัคคุเทศก์คอยดูแล ซึ่งต้องขออนุญาตบอกตรงๆ ว่าเป็นการพยายามประหยัดที่ไม่น่าจะคุ้มค่าสักเท่าไหร่เลยครับ) สำหรับผู้ที่จองตั๋วเรือไปกลับหมู่เกาะสุรินทร์และชำระค่าใช้จ่ายเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้วทางผู้ประกอบการก็จะมีการจัดรถรับส่งระหว่าง บขส.คุระบุรี/ที่พักในเขต จ.พังงา & จ.ภูเก็ต – ท่าเรือ ให้ด้วย (อย่าลืมตรวจสอบเขตพื้นที่ซึ่งมีรถให้บริการรับส่งได้จาก “หมายเลขโทรศัพท์” หรือ “LINE ID” ในกรอบสีขาวทางด้านล่างบทความชิ้นนี้ก่อนติดต่อจองตั๋วเรือด้วยนะครับ)
|
...................................ลวดลายของสายน้ำ...................................
|
|
........................................พรจากฟ้า........................................
|
2. ใช้บริการทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : เป็นบริการทัวร์ของผู้ประกอบการเอกชนซึ่งจะมีจุดเริ่มต้นจากท่าเรือในเขต จ.พังงา (แต่มีรถรับส่งระหว่าง บขส.คุระบุรี/ที่พัก – ท่าเรือ ให้บริการตั้งแต่ในเขตพื้นที่ จ.พังงา – จ.ภูเก็ต เช่นเดียวกันกับผู้ที่ซื้อตั๋วเรือไปกลับหมู่เกาะสุรินทร์ครับ) โดยบริการทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ของผู้ประกอบการเอกชนนั้นจะมีหลากหลายประเภทตั้งแต่ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์แบบเช้าไปเย็นกลับ (One day tour), ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์แบบ 2 วัน 1 คืน, ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์แบบ 3 วัน 2 คืน และทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์แบบ 4 วัน 3 คืน (กรณีต้องการพักค้างแรมบนเกาะสุรินทร์เหนือเกินกว่า 3 คืน แนะนำให้เลือกซื้อเฉพาะตั๋วเรือไปกลับน่าจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าครับ) ซึ่งในโปรแกรมทัวร์ทุกๆ ประเภทก็จะมีประกันภัย เสื้อชูชีพ หน้ากากดำน้ำตื้น อาหารและเครื่องดื่มให้บริการพร้อมสรรพ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสะดวกสบายและไม่อยากจะเตรียมตัวหาข้อมูลใดๆ มาก (นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบโปรโมชั่นทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ประเภทต่างๆ ได้จากตารางราคาทางด้านล่างและติดต่อจองทัวร์ได้จาก “LINE ID” หรือ “หมายเลขโทรศัพท์” ในกรอบสีขาวทางด้านล่างตารางราคาครับ) .....อย่างไรก็ดี.....นักท่องเที่ยวซึ่งเลือกใช้บริการทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์แบบพักค้างคืนอาจพบกับข้อด้อยเล็กน้อยกล่าวคือ ทุกๆ คนจะต้องนอนในเต็นท์ (จะไม่มีการจองบ้านพักอุทยานฯ ให้ครับ) เพราะฉะนั้นถ้าอยากเลือกนอนในบ้านพักของอุทยานฯ นักท่องเที่ยวก็จำเป็นจะต้องเลือกซื้อเฉพาะตั๋วเรือไปกลับแล้วจองบ้านพักอุทยานฯ มาด้วยตนเอง
|
เพียงแค่เศษเสี้ยวของกาลเวลา.....แต่บางครั้งก็จะกลายเป็นความทรงจำซึ่งติดตรึงตราไปชั่วชีวิต
|
|
..........วันหนึ่งก่อนตะวันจะลับเลือน ณ หมู่เกาะสุรินทร์ อ.คุระบุรี จ.พังงา ประเทศไทย..........
|
ถ่ายภาพและเขียนบทความ : ตฤณ ณ อัมพร
เรียบเรียง : อรชร ลลิตผสาน
สงวนลิขสิทธิ์โดย : เว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com)
ข้อมูลอ้างอิง : การลงสำรวจพื้นที่จริงในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์โดยทีมงานเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com), ป้ายความรู้โดยรอบบริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์, พิพิธภัณฑ์ชนเผ่ามอแกน เกาะสุรินทร์ใต้, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ & ตั๋วเรือหมู่เกาะสุรินทร์ ราคาถูก !
|
โปรแกรม |
ราคา (บาท) |
ผู้ใหญ่ |
เด็ก |
ตั๋วเรือ ไป - กลับ หมู่เกาะสุรินทร์
|
ตั๋ว เรือไป - กลับ หมู่เกาะสุรินทร์ : Speed Boat
(เริ่มต้น : ท่าเรือคุระบุรี)
|
1,700
|
850
|
ตั๋ว เรือไป - กลับ หมู่เกาะสุรินทร์ : Speed Boat
(เริ่มต้น : บขส. คุระบุรี เริ่มรับที่บขส. 05.00 น.)
|
1,700
|
850
|
ตั๋ว เรือไป - กลับ หมู่เกาะสุรินทร์ : Speed Boat
(เริ่มต้น : เขาหลัก เริ่มรับเวลาประมาณ 07.00 น.)
|
2,300
|
1.150
|
ตั๋ว เรือไป - กลับ หมู่เกาะสุรินทร์ : Speed Boat
(เริ่มต้น : ภูเก็ต เริ่มรับเวลาประมาณ 05.00 น.)
|
2,700
|
1,350
|
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ 1 วัน เช้าไป เย็นกลับ
|
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 1 Day ไปเช้า เย็นกลับ
(เริ่มต้น ท่าเรือทับละมุ)
|
1,990
(walk in 2,100) |
1,590
(walk in 1,700) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 1 Day ไปเช้า เย็นกลับ
(เริ่มต้น : เขาหลัก เฉพาะพื้นที่ที่บริการ)
|
2,090
(walk in 2,300) |
1,690
(walk in 1,800) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 1 Day ไปเช้า เย็นกลับ
(เริ่มต้น : ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม)
|
2,290
(walk in 2,600) |
1,890
(walk in 2,100) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 1 Day ไปเช้า เย็นกลับ
(เริ่มต้น : ภูเก็ต เฉพาะพื้นที่ที่บริการ)
|
2,290
(walk in 3,200) |
1,890
(walk in 2,600) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 1 Day ไปเช้า เย็นกลับ
(เริ่มต้น เกาะพยาม ตรวจสอบวันเดินทางล่วงหน้า)
|
2,290
(walk in 2,400) |
1,150
(walk in 1,200) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 1 Day ไปเช้า เย็นกลับ
(เริ่มต้น ท่าเรือคุระบุรี ตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป)
|
2,290
(walk in 2,700) |
1,200
(walk in 1,350) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 1 Day ไปเช้า เย็นกลับ
(เริ่มต้น : บขส. คุระบุรีี ตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป)
|
2,390
(walk in 2,700) |
1,300
(walk in 1,350) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ 2 วัน 1 คืน
|
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 2 วัน 1 คืน นอนเต็นท์
(เริ่มต้น ท่าเรือคุระบุรี ตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป)
|
4,490
(walk in 4,700) |
2,290
(walk in 2,350) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 2 วัน 1 คืน นอนเต็นท์
(เริ่มต้น : บขส. คุระบุรีี ตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป)
|
4,590
(walk in 4,700) |
2,300
(walk in 2,350) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 2 วัน 1 คืน นอนเต็นท์
(เริ่มต้น : เขาหลัก เฉพาะพื้นที่ที่บริการ)
|
????
(walk in 6,300) |
????
(walk in 4,100) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 2 วัน 1 คืน นอนเต็นท์
(เริ่มต้น : ภูเก็ต เฉพาะพื้นที่ที่บริการ)
|
????
(walk in 6,600) |
????
(walk in 4,400) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ 3 วัน 2 คืน
|
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 3 วัน 2 คืน นอนเต็นท์
(เริ่มต้น ท่าเรือคุระบุรี ตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป)
|
5,290
(walk in 5,900) |
2,790
(walk in 2,950) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 3 วัน 2 คืน นอนเต็นท์
(เริ่มต้น : บขส. คุระบุรีี ตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป)
|
5,390
(walk in 5,900) |
2,890
(walk in 2,950) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 3 วัน 2 คืน นอนเต็นท์
(เริ่มต้น : เขาหลัก เฉพาะพื้นที่ที่บริการ)
|
????
(walk in 7,700) |
????
(walk in 4,700) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 3 วัน 2 คืน นอนเต็นท์
(เริ่มต้น : ภูเก็ต เฉพาะพื้นที่ที่บริการ)
|
????
(walk in 8,000) |
????
(walk in 5,000) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ 4 วัน 3 คืน
|
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 4 วัน 3 คืน นอนเต็นท์
(เริ่มต้น ท่าเรือคุระบุรี ตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป)
|
7,790
(walk in 8,000) |
3,890
(walk in 4,000) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 4 วัน 3 คืน นอนเต็นท์
(เริ่มต้น : บขส. คุระบุรีี ตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป)
|
7,850
(walk in 8,000) |
3,950
(walk in 4,000) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 4 วัน 3 คืน นอนเต็นท์
(เริ่มต้น : เขาหลัก เฉพาะพื้นที่ที่บริการ)
|
????
(walk in 8,600) |
????
(walk in 4,300) |
ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : 4 วัน 3 คืน นอนเต็นท์
(เริ่มต้น : ภูเก็ต เฉพาะพื้นที่ที่บริการ)
|
????
(walk in 9,000) |
????
(walk in 5,000) |
หมายเหตุ : โปรแกรมเริ่มต้นที่ท่าเรือคุระบุรี (มีบริการรถรับจากบขส.คุระบุรี มาที่ท่าเรือ)
โปรแกรมเริ่มต้น เขาหลัก และภูเก็ตบริการรับส่งภายในพื้นที่ที่กำหนดเท่านั้น
เด็ก หมายถึง อายุ 4-11 ปี และส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม.
**ราคาแพกเกจทัวร์ เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น**
**สำหรับชาวต่างชาติ โปรดสอบถามโปรโมชั่นรายแพกเกจอีกครั้ง**
|
โปรโมชั่นนี้จัดให้เฉพาะผู้ซึ่งติดต่อจอง "ทัวร์หมุ่เกาะสุรินทร์ หรือ ตั๋วเรือหมู่เกาะสุรินทร์ "
และชำระค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนล่วงหน้า
ผ่านท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ตามหมายเลขโทรศัพท์ในกรอบทางด้านล่างเท่านั้น
|
รับทันที !! ส่วนลดโปรโมชั่น "ตั๋วเรือ และ ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์" ราคาพิเศษ !!
เฉพาะผู้ซึ่งติดต่อจองบัตรล่วงหน้าตามเงื่อนไขผ่านเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม
ทาง Line ID หรือหมายเลขโทรศัพท์ :
(089) 137-8702 , (084) 145-0957 , (094) 251-9214 Fax. (02) - 4571605
Line ID : thongteaw2 , thongteaw.com ,
trin.thongteaw.com , cimlee
กรุณาติดต่อสำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 2 - 7 วัน ขอบคุณครับ/ค่ะ
หมายเลขโทรศัพท์ & Line ID ข้างต้น
ใช้เพื่อการติดต่อสำรองที่นั่ง "ตั๋วเรือ และ ทัวร์หมู่เำกาะสุรินทร์" ล่วงหน้าเท่านั้น !!
กรณีไม่สะดวกสำรองที่นั่งและชำระค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนล่วงหน้าตามเงื่อนไข
กรุณาติดต่อซื้อตั๋วเรือและทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ ในราคา Walk In
ตามปกติ
(ไม่มีโปรโมชั่นส่วนลดใด ๆ) ครับ/ค่ะ
|
เงื่อนไขการจองตั๋วเรือ/ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ โปรโมชั่นราคาถูก !
สำหรับการจอง ตั๋วเรือ/ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ กรุณาแจ้งจองทัวร์/ที่พัก และปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีการจองทัวร์ต่างๆ ทางด้านล่างทั้งหมดให้เสร็จสมบูรณ์ล่วงหน้าก่อนกำหนดวันออกทัวร์อย่างน้อย 2 – 21 วัน (กรณีช่วงวันหยุดเทศกาลหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ ควรติดต่อจองทัวร์และปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ให้เสร็จสมบูรณ์ล่วงหน้าอย่างน้อย 2-4 อาทิตย์ มิฉะนั้นทัวร์อาจเต็มครับ)
ขั้นตอนการจองตั๋วเรือ/ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ โปรโมชั่นราคาถูก !
1.เปิด Application Line ใน Smartphone หรือ Tablet ของท่านขึ้นมา แล้วเลือกหัวข้อ “เพิ่มเพื่อน” จากนั้นให้เลือกหัวข้อ “ID/โทรศัพท์” ทางด้านขวาบนของหน้าเพิ่มเพื่อน
2.เลือกเพิ่มเพื่อนโดยใช้ Line ID : thongteaw.com หรือ www.thongteaw.com หรือ trin.thongteaw.com
3.หากท่านไม่สะดวกในการเพิ่มเพื่อนจาก Line ID ท่านสามารถเลือกเพิ่มเพื่อนจากหมายเลขโทรศัพท์ได้โดยการใส่หมายเลขโทรศัพท์ 0942363295 หรือ 0945193645 หรือ 0942519214 ลงในช่อง “หมายเลขโทรศัพท์เพื่อน” แล้วกดเครื่องหมายแว่นขยาย (ช่องด้านบน “หมายเลขโทรศัพท์เพื่อน” ให้ใช้รหัส Thailand +66 ซึ่งถ้าโทรศัพท์ของท่านใช้ SIM card ที่ลงทะเบียนในประเทศไทยก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าใดๆ ครับ)
4. เมื่อทำการเพิ่มเพื่อนเสร็จเรียบร้อยแล้วให้แจ้งข้อมูลผู้จองส่งมาทาง Line ให้ครบถ้วนดังรายละเอียดต่อไปนี้
- ชื่อ – นามสกุล : (ต้องเป็นชื่อ – นามสกุลจริงๆ เท่านั้น ห้ามใช้ชื่อเล่นในการจอง) ของผู้จองซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่ม 1 ท่าน โดยผู้จองต้องเป็นผู้ที่มีหลักฐานยืนยันตัวตนแสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่จุดเช็คอิน หรือแสดงแก่เจ้าหน้าที่คนขับรถกรณีใช้บริการรถรับส่ง (หลักฐานยืนยันตัวตนสำหรับผู้จองชาวไทยใช้ “บัตรประชาชน” หรือ “ใบขับขี่” ส่วนหลักฐานยืนยันตัวตนสำหรับชาวต่างประเทศใช้ “หนังสือเดินทาง : Passport” ครับ)
- หมายเลขโทรศัพท์มือถือ : ต้องเป็นหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถใช้ติดต่อกับผู้จองได้จริงในวันออกเดินทาง
- ประเภทตั๋วเรือ/ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์/ห้องพัก ที่เลือก : สามารถเลือกประเภทได้จาก ตั๋วเรือหมู่เกาะสุรินทร์/ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์/ห้องพัก แบบต่าง ๆ
- วันที่จะใช้บริการ : คือวันที่เดินทางไป และวันที่เดินทางกลับ กรณีสำรองทัวร์เช้าไปเย็นกลับ หมายถึงวันที่ออกทัวร์นั่นเอง/กรณีสำรองห้องพัก หมายถึง วันเช็คอินเช็คเอ้าท์
- จำนวนนักท่องเที่ยว : จำนวนรวมของนักท่องเที่ยวในกลุ่ม
- สัญชาตินักท่องเที่ยว : กรุณาแจกแจงข้อมูลว่าในกลุ่มของท่านมีนักท่องเที่ยวสัญชาติใดอยู่บ้าง ? แต่ละสัญชาติมีจำนวนกี่คน ? ยกตัวอย่างเช่น ไทย 4 คน จีน 2 คน อเมริกัน 1 คน เป็นต้น
- อายุเด็ก : สำหรับทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ ทุกๆ แบบ “เด็ก” หมายถึงผู้ที่มีอายุระหว่าง 4 - 12 ปี ส่วนสูงต้องไม่เกิน 120 ซม. และจะต้องเสียค่าบริการทัวร์ในอัตราของเด็ก หากอายุไม่ถึง 4 ปี สามารถใช้บริการตั๋วเรือ และ ทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ (นั่งตักผู้ใหญ่) กรณีที่อายุเกิน 12 ปี หรือสูงกว่า 120 ซม. จะต้องเสียค่าบริการทัวร์ในอัตราเดียวกับผู้ใหญ่ (ไม่ถือว่าเป็นเด็กครับ) เพราะฉะนั้นหากแจ้งจองทัวร์โดยระบุว่ามีเด็กอยู่ภายในกลุ่มจึงจำเป็นจะต้องแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของอายุ และส่วนสูงเด็กไว้ด้วย
- ชื่อที่พัก/โรงแรม/รีสอร์ท ที่ต้องการจะให้รถไปรับส่ง : สำหรับกรณีเลือกบริการรถรับส่ง โปรดแจ้งชื่อที่พักให้ทราบเพื่อจะได้ตรวจสอบพื้นที่และแจ้งเวลารถรับ
5.เมื่อแจ้งข้อมูลการจองครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ให้รอรับข้อความยืนยันการจองทาง Line (กรณี ตั๋วเรือ หรือทัวร์เต็มก็จะมีการแจ้งผลการจองกลับทาง Line ให้ทราบเช่นกันครับ)
6.เมื่อได้รับข้อความยืนยันการจองเสร็จเรียบร้อยแล้ว กรุณาชำระค่าใช้จ่ายเข้าบัญชีทางด้านล่างภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในข้อความยืนยันการจอง (ก่อนชำระค่าใช้จ่ายโปรดตรวจสอบความถูกต้องของจำนวนเงิน, ชื่อ และเลขที่บัญชีทุกครั้งด้วยครับ) หากไม่มีการชำระค่าใช้จ่ายภายในระยะเวลาที่กำหนด การจองจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ
บัญชีออมทรัพย์ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาเมืองทองธานีซิตี้เซ็นเตอร์ 2
ชื่อบัญชี : Thongteaw.com (ท่องเที่ยวดอทคอม)
เลขที่บัญชี : 402-222838-7
|
7.เมื่อชำระค่าใช้จ่ายเสร็จเรียบร้อย กรุณาส่งหลักฐานการชำระค่าใช้จ่ายมาทาง Line
- กรณีเป็น Slip จากตู้ ATM หรือใบนำฝากของธนาคารให้ใช้การถ่ายรูปส่งทาง Line
- กรณีเป็นการโอนผ่าน Application บน Smartphone หรือ Tablet ให้ Capture หน้าจอซึ่งดำเนินการชำระค่าใช้จ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้วส่งมาทาง Line
8.ทีมงานจะใช้เวลาในการตรวจสอบหลักฐานการชำระค่าใช้จ่าย ตรวจสอบความถูกต้องของยอดโอน และดำเนินการส่ง Voucher กลับทาง Line ภายในเวลา 24 – 48 ชม. หากยอดโอนหรือหลักฐานการชำระค่าใช้จ่ายไม่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ทีมงานจะแจ้งให้ท่านทราบทาง Line เพื่อขอความกรุณาให้ท่านดำเนินการอย่างถูกต้องอีกครั้ง
9.เมื่อได้รับ Voucher เรียบร้อยแล้ว ในวันออกเดินทางไปหมู่เกาะสุรินทร์ ท่านสามารถใช้หลักฐานยืนยันตัวตน (บัตรประชาชน, ใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทาง แล้วแต่กรณี) ร่วมกับการแสดง Voucher จาก Smartphone หรือ Tablet เพื่อ Check In ขึ้นรถรับส่งหรือขึ้นเรือ/เช็คอินห้องพัก ได้ทันทีตามเวลาที่ระบุ
10.เว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ไม่มีความประสงค์หรือนโยบายใดๆ ที่จะกระทำการเพื่อหลอกลวง ทุจริต หรือฉ้อโกงท่านในทุกกรณี หากมีข้อจำกัดทางด้านสภาพคลื่นลมหรือภูมิอากาศ รวมถึงข้อจำกัดทางด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่ส่งผลให้ เรือ ไม่สามารถออกทัวร์ได้ ทางเว็บไซต์ยินดีคืนค่าใช้จ่ายซึ่งท่านได้ชำระไว้ล่วงหน้าให้เต็มจำนวนโดยไม่มีเงื่อนไข (แต่ในกรณีซึ่งท่านยกเลิกตั๋วเรือ หรือทัวร์ทั้งๆ ที่ เรือยังคงสามารถออกเรือไปทัวร์ได้ตามปกติ หรือท่านไม่มารอรถรับส่ง/เรือ ตามเวลานัดหมาย ทางเว็บไซต์จะไม่มีการคืนค่าใช้จ่ายใดๆ ให้นะครับ)
11.ผู้รับผิดชอบโปรแกรมตั๋วเรือหมู่เกาะสุรินทร์ และทัวร์หมู่เกาะสุรินทร์ : ผู้ประกอบการใบอนุญาตเลขที่ 34/00852 , 33/01159 , 34/01166
หมายเหตุ
รายละเอียดโปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของสภาพคลื่นลม และสภาวะอากาศ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก และผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้นักท่องเที่ยวทราบล่วงหน้า
- ราคานี้มีผล 15 ตุลาคม 2564 - 15 พฤษภาคม 2565 เท่านั้น
|